ย้ำไม่อ่อนข้อ “คิงส์เกต”

นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผยถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ระบุว่า รัฐบาลจะแพ้คดีอนุญาโตตุลาการในการฟ้องร้องของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด จากออสเตรเลีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ และรัฐบาลจะยกประโยชน์ หรือทรัพยากรของประเทศให้คิงส์เกต เพื่อแลกกับการถอนฟ้องคดี เพราะล่าสุด ได้อนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำให้อัคราแล้ว 400,000 ไร่ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ ทั้งที่ใช้มาตรา 44 สั่งหยุดทำเหมืองแร่ทองคำว่า การเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เป็นกระบวนการปกติ ที่ระบุไว้ทั้งในข้อตกลงการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงกระบวนการยุติธรรมของไทย ดังนั้น การที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ก็ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลเชื่อว่าจะแพ้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ ขณะเดียวกัน การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำของอัครา 44 แปลง เนื้อที่ 397,000 ไร่ ที่เพชรบูรณ์ เป็นการอนุญาตตามคำขอเดิมที่อัครา ได้ยื่นไว้ตั้งแต่ปี 46 และ ปี 48 ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่ได้พิจารณาคำขอ เพราะมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ชะลอการอนุญาตไว้ก่อนจนกว่าจะกำหนดนโยบายทองคำ

นอกจากนี้ การที่คิงส์เกตเปิดเผยว่าได้รับอนุญาตให้จำหน่ายผงทองของอัคราก็เป็นการดำเนินการโดยทั่วไปของเอกชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่จะต้องให้ข้อมูลต่างๆ ต่อผู้ถือหุ้น “การอนุญาตอาชญาบัตรพิเศษ เป็นการอนุญาตให้สำรวจแร่ รัฐไม่มีข้อผูกพันว่าจะต้องอนุญาตให้ทำเหมืองแร่ การยื่นคำขออนุญาตเป็นสิทธิของผู้ประกอบการ กรมได้พิจารณาอนุญาตภายใต้กฎหมาย ที่คำนึงถึงการปกป้องคุ้มครองผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ได้นำทรัพยากรของประเทศให้แก่คิงส์เกต เพื่อแลกกับการถอนฟ้องคดี”.