นายวิสูตร พันธวุฒิยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอชอาร์. ไดเจสท์ กรุ๊ป ในฐานะนายกสมาคมนายจ้างผู้ประกอบกิจการรับเหมาแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีผลสำรวจแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตกงานประมาณ 1.04 ล้านคนในปีที่ผ่านมา และการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่อาจจะตกงานเพิ่มเป็น 2 ล้านคนในปีนี้ว่า สถานการณ์แรงงานอุตสาหกรรมโรงงานตรงกันข้ามกับภาคอุตสาหกรรมบริการ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ขาดแคลนแรงงานจำนวนนับหมื่นตำแหน่ง
ทั้งนี้ ภาคโรงงานมีความยินดีที่จะรับภาคบริการเข้ามาทำงาน อาจจะเข้ามาทำเพียงชั่วคราว 1-2 ปี หากอุตสาหกรรมบริการภาคการท่องเที่ยวกลับมาเปิดดำเนินการแล้วก็สามารถย้ายกลับไปได้ ซึ่งตนอยากให้ทางกระทรวงแรงงานโดยกรมจัดหางานมาเป็นตัวกลางในการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว อาจจะเป็นในรูปแบบตลาดนัดแรงงานที่นำผู้ประกอบการ และแรงงานต้องการหางานทำมาพบกับ ซึ่งทางสมาคมมีความยินดีที่จะประสานงานอย่างเต็มที่
นายวิสูตรกล่าวว่า กรณีดังกล่าวนับว่าจะเป็นการช่วยผลักดันตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีให้มีการเติบโตขึ้น โดยจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน ก็ช่วยหางานให้คนตกงาน รวมทั้งไม่ต้องเป็นภาระของประกันสังคมที่ต้องเข้ามาดูแลแรงงานว่างงาน
“ขอยืนยัน ว่าแรงงานภาคโรงงานขาดแคลนหนัก ลำพังของแค่บริษัทผมต้องการแรงงานจำนวนหลักพันคนไปทำงานในโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในโครงการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี และโรงงานผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ที่ย่านพระประแดงอีก 500 ตำแหน่ง ซึ่งเงินรายได้สูงถึง 17,000-18,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับว่าแรงงานภาคบริการเต็มใจ จะย้ายงานมาทำโรงงานหรือไม่”.