ท่าอากาศยานไทย ฟื้นตัวได้ลำบาก เลือดกบปากฝ่าวิกฤติโควิด-19

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 เป็นการทำงานที่ยากมากขึ้น และธุรกิจของ ทอท.ฟื้นตัวได้ลำบาก เนื่องจากธุรกิจสนามบินพาณิชย์ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เนื่องจากรายได้หลักของผู้บริการสนามบินมาจาก 2 ส่วนหลัก คือ 1.รายได้จากธุรกิจการบิน (Aero) เพราะผลจากตารางการบินสากลในแต่ละปีจะมีปีละ 2 ครั้ง คือ ฤดูร้อนกับฤดูหนาว แต่ปรากฏว่าไตรมาส 1-2 (ม.ค.-มิ.ย.) ตารางการบินฤดูร้อนระหว่างประเทศแบบประจำยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ทำให้ ทอท.ต้องมองข้ามไปเริ่มต้นทำตารางการบินในฤดูหนาว ในเดือน ต.ค.นี้ก่อน และตามปกติสายการบินทั่วโลกจะวางแผนจัดเที่ยวบินในเดือน เม.ย.ของทุกปี เรื่องนี้จึงกระทบต่อรายได้ของปีงบประมาณ 2564 ที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างแน่นอน รายได้ดังกล่าวเป็นเพียงการรับรู้รายได้บางส่วน แตกต่างจากปีงบประมาณ 2563 เมื่อไตรมาส 1 (ต.ค.-ธ.ค.2562) ที่สามารถทำกำไรสะสมไว้ได้ 4,000 ล้านบาท แต่ต้นปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.-ธ.ค.2563) ไม่มีรายได้จากเที่ยวบินระหว่างประเทศแต่อย่างใด

ดังนั้น ปีงบประมาณ 2564 ทอท.ได้ประเมินปริมาณจราจรการบินจากผลกระทบโควิด-19
จะส่งผลให้ผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลงไป 70 ล้านคน ต่างจากการประเมินตามปีปฏิทิน 2564 ที่เริ่มในเดือน ม.ค.นี้ เพราะต้องลุ้นกันในเดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ ที่เป็นฤดูเดินทางจากเทศกาลคริสต์มาส เทศกาลปีใหม่ บวกกับวัคซีนโควิด-19 เริ่มทยอยฉีดกันทั่วโลก ทำให้ปี 2565 ทอท.อาจมีโอกาสทำรายได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ เที่ยวบินในประเทศก่อนโควิด-19 ระบาดระลอกที่ 2 มีเฉลี่ยวันละ 200,000 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารต่างประเทศบินมาต่อเครื่องในประเทศ 80,000 คน คนไทย 120,000 คน และเมื่อเดือน ธ.ค.มีคนไทยเดินทางวันละ 200,000 คน แต่พอเกิดการระบาดระลอก 2 มีผู้โดยสารเหลือเพียง 60,000-70,000 คนต่อวัน”

“รายได้ในส่วนที่ 2 คือ รายได้ในเชิงพาณิชย์ต่างๆที่ไม่ได้เกี่ยวกับการบิน (Non Aero Revenue) ขณะนี้มีความคืบหน้าทั้ง 4 โครงการ อาทิ การจัดทำดิจิทัลแพลตฟอร์ม, Cirtifly Hub Cargo หรือการออกใบรับรองศูนย์กระจายสินค้าขนส่งทางอากาศที่พร้อมเปิดให้บริการเดือน มิ.ย.นี้”.