เอไอเอสใส่เกียร์ลุย 5G ยืนยันนำคลื่น 700 MHz สร้างประโยชน์เพื่อคนไทย ตอกย้ำรายเดียวมีคลื่นความถี่ครบและมากที่สุด พร้อมเข้าชำระค่าคลื่นอีกกว่า 1,800 ล้านบาท
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) ผู้ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz มูลค่ารวม 15,584 ล้านบาท วันนี้ ได้ไปชำระค่าคลื่นความถี่งวดที่ 1 เป็นเงิน 1,881,488,000.00 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว กับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมี พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
ทั้งนี้ จากวิสัยทัศน์ของเอไอเอสที่มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ผ่านมา เอไอเอสจึงตั้งใจอย่างยิ่งในการเข้าประมูลคลื่น 5G แบบเต็มบล็อกในทุกย่านความถี่ โดยมีครบทั้งย่านความถี่ต่ำ ย่านความถี่กลางและย่านความถี่สูง ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ประกอบด้วย คลื่น 700 MHz จำนวน 30 MHz (2x15 MHz) คลื่น 2600 MHz จำนวน 100 MHz และคลื่น 26 GHz จำนวน 1200 MHz รวมเฉพาะคลื่นความถี่ที่จะนำมาให้บริการ 5G ทั้งหมดอยู่ที่ 1330 MHz และเมื่อรวมกับคลื่นความถี่เดิมที่มีจำนวนมากที่สุดอยู่แล้ว ส่งผลให้เอไอเอสยังคงยืนหยัดในฐานะผู้นำอันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ให้บริการ 3G, 4G และ 5G มากที่สุดในอุตสาหกรรม รวม 1420 MHz ไม่รวมคลื่นที่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ)
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันถือได้ว่า เครือข่ายเอไอเอส 5G มีความแข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นเพียงรายเดียวที่มีจำนวนคลื่นมากที่สุดในแต่ละย่านแล้ว ยังเป็นเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมที่มีปริมาณแบนด์วิดท์ภาพรวมในระดับ World’s Best-In-Class ส่งผลให้เครือข่ายของเอไอเอสมีขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ ออกแบบ Solutions ปรับเปลี่ยน Tailor Made เพื่อตอบโจทย์แต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในภาพรวมเครือข่ายเอไอเอส 5G จะมีความเร็วสปีดที่สูงกว่าถึง 24 เท่า และมีขีดความสามารถในการรองรับการใช้งาน Capacity ที่มากกว่าถึง 30 เท่า พร้อม Latency ที่ต่ำกว่าเดิมถึง 10 เท่า ทั้งนี้หมายรวมถึงการยกระดับคุณภาพการให้บริการ 4G ปัจจุบันด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี 5G โดย 3GPP ระบุว่า คลื่น 700 MHz จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด ที่จำนวนเต็ม 30 MHz (2x15 MHz) จึงเป็นที่มาของความตั้งใจในการเข้าประมูลย่าน 700 MHz เพิ่มอีก 10 MHz (2x5 MHz) จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 20 MHz (2x10 MHz) รวมเป็น 30 MHz (2x15 MHz) ในขณะที่ คลื่น 2600 MHz ต้องมีจำนวน 100 MHz จึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นกัน ส่วนคลื่น 26 GHz ต้องมีจำนวน 400 MHz ต่อ 1 Block จึงจะสามารถให้บริการ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรองรับดิจิทัลโซลูชันส์ให้กับภาคอุตสาหกรรมในอนาคต จึงเห็นได้ว่าจำนวนคลื่นในทุกย่านความถี่บนเทคโนโลยี 5 G นั้น อยู่ในระดับมาตรฐานการให้บริการทั้งสิ้น
นายสมชัย กล่าวอีกว่า เอไอเอสตระหนักอยู่เสมอว่า คลื่นความถี่คือ ทรัพยากรสาธารณะอันทรงคุณค่า ดังนั้น หลังจากการประมูลได้แต่ละคลื่นมาให้บริการ เอไอเอสจึงเร่งเดินหน้าพัฒนาเครือข่าย เพื่อส่งต่อประโยชน์ไปยังประชาชนและทุกภาคส่วนอย่างรวดเร็วที่สุด ทำให้ล่าสุดได้รับการรับรองจาก กสทช.ว่า เอไอเอส สามารถขยายเครือข่ายในคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ได้เกินกว่าที่ กสทช.กำหนด ซึ่งทีมงานจะยังคงเดินหน้านำเทคโนโลยี 5G จากทุกคลื่นความถี่ที่มีคุณสมบัติดีแตกต่างกัน มาสร้างประโยชน์ทันที ตามเจตนารมณ์ของภาครัฐ.