โครงการ “คนละครึ่ง” ใช้จ่ายแล้วกว่า 500 ล้านบาท

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

โครงการ “คนละครึ่ง” ใช้จ่ายแล้วกว่า 500 ล้านบาท

Date Time: 27 ต.ค. 2563 09:20 น.

Summary

  • นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการ “คนละครึ่ง” ว่า ตั้งแต่โครงการคนละครึ่งได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่าย

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการ “คนละครึ่ง” ว่า ตั้งแต่โครงการคนละครึ่งได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกเมื่อวันที่ 23 ต.ค.63 เป็นต้นมา จนถึงช่วงเที่ยงของวันที่ 26 ต.ค.63 พบว่า มีผู้ใช้สิทธิแล้ว 1.24 ล้านคน คิดเป็นยอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 502.9 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินที่ประชาชนจ่าย 259.4 ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 243.5 ล้านบาท โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้ง 234 บาท

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของการใช้จ่ายจะพบว่า มีการใช้จ่ายมากที่สุดที่ร้านธงฟ้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป และร้านโอทอป ตามลำดับ โดยมีการใช้จ่ายครบทุกจังหวัดในประเทศไทย แต่จังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครศรีธรรมราช และสงขลา

ส่วนการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุด มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.5 ล้านคน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านคน ดังนั้น จึงยังเหลือสิทธิลงทะเบียนอีก 1.5 ล้านคน และมีร้านค้าร่วมโครงการแล้วกว่า 350,000 ร้านค้า

“ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00-23.00 น. ต่อเนื่องทุกวันจนกว่าจะครบ 10 ล้านคน โดยผู้ที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก”

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00-23.00 น. หรือ ณ สาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ และอำนวยความสะดวกในการรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว โดยให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านเข้ามาช่วยในการยืนยันข้อมูลของผู้ประกอบการ เพื่อให้มีร้านค้ารองรับการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ