เส้นผมสร้างสุข...“หมออร” ตอบแทนสังคมผ่าน “มูลนิธิ รักษ์ผม”

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เส้นผมสร้างสุข...“หมออร” ตอบแทนสังคมผ่าน “มูลนิธิ รักษ์ผม”

Date Time: 10 ต.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • จะดีแค่ไหน...หากเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจมาถึงระดับที่เติบโตในด้านผลกำไร ซึ่งอาจไม่ได้เป็นจำนวนที่มากมาย แต่ก็สามารถหล่อเลี้ยงธุรกิจให้คงยืนหยัดอยู่ได้

Latest

รอบรั้วการตลาด : เดล คาร์เนกี ประเทศไทย แนะองค์กรไทยโฉมใหม่ต้องมีแผน ESG

จะดีแค่ไหน...หากเจ้าของธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจมาถึงระดับที่เติบโตในด้านผลกำไร ซึ่งอาจไม่ได้เป็นจำนวนที่มากมาย แต่ก็สามารถหล่อเลี้ยงธุรกิจให้คงยืนหยัดอยู่ได้

“โดยหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจของเขาไม่ได้มองเพียงแค่การสร้างรายได้ ทำผลกำไรให้งอกงาม แต่กลับให้ความสำคัญในการรู้จักตอบแทนคืนสิ่งดีๆให้สังคม ควบคู่ไปด้วย”

Business On My Way สัปดาห์นี้ ขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ “คุณหมออร” (พญ.อรอุมา พันธ์อภิวัฒน์) เจ้าของคลินิก “Dr.Orn Clinic” ที่ให้บริการเกี่ยวกับการรักษาโรคผิวหนัง ดูแลด้านความงาม ศูนย์เลเซอร์ ปลูกผมถาวร
รวมทั้งการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด

ทั้งนี้ “หมออร” ถือเป็นสาวสวยคนเก่งที่ครบเครื่อง โดยมีดีกรีเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่น 65 และจบการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนั้นยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการปลูกผม โดยเป็นสมาชิกของ AAHRS (Asian Association of Hair restoration Surgeon)

คุณหมออรเล่าว่า จากจุดเริ่มต้นที่เปิดคลินิก กระทั่งจะครบรอบ 9 ปี ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ก็ได้เห็นถึงปัญหาเรื่องเส้นผมมาเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีผู้มีปัญหาเรื่องเส้นผม-หนังศีรษะ เข้ามาขอรับคำปรึกษาอยู่เป็นประจำ ซึ่งลูกค้าบางท่านก็ติดปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ก็อยากรักษาเพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่เป็นปมด้อย ไม่มั่นใจเวลาที่ต้องออกไปพบเจอสังคมภายนอก

“สิ่งนี้เองทำให้เราเล็งเห็นถึงแนวคิดที่อยากจะทำอะไรให้กับคนกลุ่มนี้ โดยล่าสุดได้จัดตั้งมูลนิธิ รักษ์ผมขึ้นมา ซึ่งจะเปิดตัวเป็นทางการในวันที่ 15 ต.ค.2563”

คุณหมออรเล่าว่า มูลนิธิ รักษ์ผมนี้ ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจ ผู้ที่ประสบปัญหาด้านเส้นผม อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ โรคมะเร็ง และพันธุกรรม เพื่อทำให้บุคคลเหล่านั้นกลับมามีความมั่นใจ

ทั้งนี้ กลุ่มที่เราจะให้โอกาสในการรักษา จะเน้นเป็นผู้ประสบปัญหาด้านเส้นผมที่ด้อยโอกาสขาดทุนทรัพย์ในการรักษา หรือยากต่อการเข้าถึงในการรักษา โดยการรักษาจะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

สำหรับวัตถุประสงค์หลักๆของมูลนิธิ ประกอบด้วย 1.เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางด้านเส้นผม ที่มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ โรคมะเร็ง หรือทางพันธุกรรม ที่อาจทำให้เสียความมั่นใจ 2.เพื่อตั้งองค์กรการกุศลแก่สังคมว่า ปัญหาของเส้นผมเป็นเรื่องที่ควรตระหนักและให้ความสำคัญ

3.เพื่อให้ความร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์และการสังคมสงเคราะห์ และ 4.เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็ง โดยการรับบริจาคเส้นผมเพื่อทำวิกผม

“ที่ผ่านมายังไม่มีคลินิกไหนให้ความสำคัญในด้านนี้แบบจริงจัง เราอาจเป็นเพียงคลินิกเล็กๆหรือธุรกิจเล็กๆ เสมือนเป็นจุดเล็กๆจุดหนึ่ง ที่อยากจะช่วยเหลือตอบแทนสังคมได้ ซึ่งหากหลายธุรกิจร่วมมือกันความช่วยเหลือก็จะขยายผลเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น” คุณหมออรกล่าว

คุณหมออรเล่าว่า อยากให้ทุกธุรกิจมองว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ถึงจะตอบแทนสังคมได้ อาทิ อย่างพวกกลุ่มธุรกิจศัลยกรรมก็สามารถทำได้ เช่นช่วยเหลือทำศัลยกรรมให้คนที่ถูกไฟไหม้มา ทำศัลยกรรมใบหน้ามา จากนั้นอาจส่งผลมาเรื่องของเส้นผมต่อก็ได้ ทางมูลนิธิก็พร้อมให้ความร่วมมือด้วย

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการกับทางมูลนิธิฯ ก็สามารถกรอกใบสมัครออนไลน์ ส่งมาที่อีเมล : hairwecare@drornhaircenter.com  จากนั้นทางมูลนิธิฯจะทำการคัดเลือกและนัดวันและเวลาที่ผู้สมัครสะดวก เข้ามาปรึกษากับแพทย์ที่คลินิก ทั้งนี้ การคัดเลือกจะมีการเชิญนักจิตวิทยามาร่วมเป็นกรรมการด้วย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางคลินิกจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด

คุณหมออรเล่าด้วยว่า เป้าหมายจากนี้ของมูลนิธิฯ ในช่วงแรกตั้งใจทำให้กลุ่มคนที่มีความพิการทางเส้นผม คนไข้กลุ่มประสบเหตุไฟไหม้ ประสบอุบัติเหตุมา มีแผลบนศีรษะ ซึ่งจากนั้นก็มีแผนที่จะขยายที่จะทำวิกผม สำหรับคนไข้ที่ไม่สามารถรักษาโดยการปลูกผมได้ อาทิ กลุ่มคนไข้ที่มีแผลเป็นขนาดใหญ่ และมีจำนวนเส้นผมที่เหลือน้อยมากจริงๆ ซึ่งการเลือกใช้วิธีการใส่วิกผมแทนน่าจะเป็นทางแก้ไขที่ดีที่สุด

ท้ายที่สุดคุณหมออรกล่าวว่า คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าในธุรกิจประเภทอะไรก็ตาม ควรมองสิ่งที่สามารถตอบแทนคืนกลับให้สังคมได้บ้าง ไม่มากก็น้อยตามพละกำลังที่สามารถทำได้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ