พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า 9 ปีที่ผ่านมา กสทช.ได้สร้างเม็ดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจหลายแสนล้านบาท ทั้งเงินจากการประมูลคลื่นความถี่โดยตรงตั้งแต่ 3 จี 4 จี และ 5 จี รวม 437,962 ล้านบาท และการประมูลทีวีดิจิทัลอีก 50,000 ล้านบาท รวมทั้งเม็ดเงินจากการลงทุนติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมของผู้ประกอบการ และการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอีกจำนวนมาก ดังนั้นภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคม วิทยุโทรทัศน์ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ อย่างมีนัยสำคัญ และจนนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย โดยเฉพาะโซเซียลมีเดียที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงมติทางสังคมของประเทศ เป็นอย่างมาก
ขณะที่กฎหมาย ในการกำกับดูแล ตามไม่ทันกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี หากจะแก้กฎหมาย ก็ต้องใช้เวลา เนื่องจากกระบวนการในการแก้ไขมีหลายขั้นตอน ปัจจุบันกฎหมายที่ กสทช.เช่น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 เป็นกฎหมายที่ใช้มานานมาก ขณะที่ พ.ร.บ. ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 พ.ร.บ. ประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ พ.ศ. 2544 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ทำให้ กสทช.ต้องออกกฎระเบียบกำกับให้เป็นไปตามกฎหมาย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย
“การออกระเบียบกำกับ ก็ต้องกำกับแบบพอดี แต่จะพอดีแบบใด เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักมาก บางเรื่องใช้ดุลพินิจ ก็อาจเกิดความผิดพลาด แต่เราก็ทำดีที่สุด เพื่อให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคม วิทยุและโทรทัศน์ เดินหน้าต่อไปได้ สิ่งใดที่ผิดพลาดก็ต้องยอมรับ และแก้ไขให้ดีที่สุด”.