หุ้นของธนาคาร HSBC ในฮ่องกงร่วงหนัก หลังมีเอกสารตีแผ่ธนาคารปล่อยให้มีการธุรกรรมทางการเงิน ที่เข้าข่ายต้องสงสัย
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า หุ้นของ HSBC ในฮ่องกง ร่วงต่ำสุดในรอบ 25 ปี หลังจากเกิดกรณีเอกสารรายงานกิจกรรมน่าสงสัย หรือ SAR ถึง 2,657 ฉบับ จากเครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐฯ หรือ FinCEN รั่วไหลไปยังสื่อต่างๆ ซึ่งเอกสารดังกล่าวได้ถูกตีความว่าธนาคารได้ปล่อยให้มีการธุรกรรมทางการเงินที่เข้าข่ายต้องสงสัย
การเปิดเผยดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของ HSBC ในฮ่องกงตกลงร้อยละ 4.4 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 29.60 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ 118.93 บาท ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 1995
ขณะที่ก่อนหน้านี้ธนาคาร HSBC และ Standard Chartered ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เคยถูกปรับเงินว่าพันล้านดอลลาร์ หลังจากละเมิดกฎต่อต้านการฟอกเงินและการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่าน
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เอกสาร SAR แสดงให้เห็นว่าธนาคารมักโยกย้ายเงินให้บริษัทที่จดทะเบียนนอกแผ่นดิน เช่น เกาะบริติชเวอร์จิน โดยไม่ทราบที่มาของเจ้าของบัญชีที่แท้จริง ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารมักใช้เว็บไซต์กูเกิลค้นหาชื่อผู้ทำธุรกรรมทางการเงิน
ทั้งนี้ ธนาคารทั่วโลกได้ทุ่มเงินเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการฟอกเงินให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ลูกค้าของธนาคารกว่าพันคนยังได้ถูกตัดออกจากการเป็นเจ้าของบัญชีในฮ่องกง และสิงคโปร์ หลังการเปิดเผยเอกสารลับปานามา ซึ่งตีแผ่คดีการฟอกเงินอื้อฉาว นำไปสู่การพยายามพลักดันให้มีการเปิดเผยข้อมูลภาษีอย่างโปร่งใส.
ที่มา: Reuters