"กอกใจ" ตำนานขนมไหว้พระจันทร์...ลือชื่อ

ธุรกิจที่มีการส่งต่อจากรุ่น...สู่รุ่น และยังคงยืนยันดำเนินกิจการจนเติบใหญ่ จนถึงทุกวันนี้ได้นั้น

คงเป็นอะไรที่พิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่า ธุรกิจนั้นมีความโดดเด่น แข็งแกร่ง หรือรักษาคุณภาพในตัวผลิตภัณฑ์ไว้ได้ดีเยี่ยมขนาดไหน

Business On My Way สัปดาห์นี้ขอพาท่านผู้อ่านไปรู้จักอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วเกือบ 80 ปี ปัจจุบันสานต่อธุรกิจด้วยรุ่นที่ 3 ของตระกูลอธินันตพันธุ์ ที่ประกอบด้วยบุตรสาวเก่ง 6 คน และเร็วๆนี้ รุ่นที่ 4 ก็จะเข้ามารับไม้ต่อ กับ “ภัตตาคารกอกใจเจ๋าเหล่า” ที่ให้บริการอาหารจีนกวางตุ้งหลากหลายเมนู อีกทั้งยังมีเมนูอย่าง “ขนมไหว้พระจันทร์” อันลือชื่อไว้ให้บริการ

“คุณเผ้ง” (วราพร อธินันตพันธุ์) ทายาทรุ่น 3 พี่สาวคนโตของตระกูล เล่าว่า จุดเริ่มต้นของกอกใจเจ๋าเหล่านั้นต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2487 ตั้งแต่สมัยคุณปู่ซึ่งเป็นชาวจีนที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทย ได้ตัดสินใจร่วมกับกลุ่มเพื่อนหุ้นกันเปิดร้านอาหารชื่อ “สากลภัตตาคาร” หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ “ก๊กจี๊เหลา ราชวงศ์” ที่บริเวณสี่แยกราชวงศ์ โดยให้บริการอาหารจีนกวางตุ้งต้นตำรับ

คุณเผ้ง เล่าต่อว่า จากการบอกเล่าของคุณแม่ “อรวรรณ อธินันตพันธุ์” ก็ทราบว่าการสืบทอดสูตรอาหารและขนมต่างๆนั้นถูกถ่ายทอดมาสู่คุณพ่อ “อนันต์ อธินันตพันธุ์” โดยคุณปู่ได้รับคุณพ่อให้เป็นบุตรบุญธรรม เนื่องด้วยท่านไม่มีลูก

“ตอนนั้นคุณแม่เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อก็เป็นเพียงเด็กเสิร์ฟ จนคุณปู่เห็นแววสอนให้ทำอาหารและขนมต่างๆรวมถึงขนมไหว้พระจันทร์ กระทั่งท่านพัฒนาตนเองขึ้นมาเป็นกุ๊ก (พ่อครัว)”

กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เมื่อปี 2527 ภัตตาคารก๊กจี๊เหลาต้องปิดตัวลง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวหมดสัญญาเช่า โดยผู้ถือหุ้นทุกคนก็ตกลงแบ่งส่วนแบ่งกัน ซึ่งในส่วนของคุณพ่อท่านก็รู้สึกผูกพันกับสิ่งที่คุณปู่สร้างมา และไม่อยากให้จบลงเพียงแค่นี้

คุณเผ้ง เล่าว่า จากนั้นคุณพ่อและคุณแม่ จึงตัดสินใจมาเปิดร้านขึ้นใหม่ในย่านถนนเจริญรัถ คลองสาน ภายใต้ชื่อภัตตาคารกอกใจ ซึ่งเหตุที่ไม่ได้ใช้ชื่อก๊กจี๊เหลา เนื่องด้วยมีคนนำไปจดทะเบียนก่อนแล้ว ทำให้ไม่สามารถใช้ได้ โดยตอนที่ย้ายมาก็ชวนทีมกุ๊ก พนักงาน มาทำงานด้วยกัน

ด้านคุณเมล์ “ภญ.นัชลิดา รัตนสนธิ” หนึ่งในทายาทรุ่น 3 ที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาสูตร และการตลาด เล่าว่า นอกจากด้านอาหารคาวที่กอกใจมีชื่อเสียงแล้ว อีกเมนูที่เป็นที่รู้จักคือ “ขนมไหว้พระจันทร์” ที่เป็นสูตรตกทอดมาตั้งแต่สมัยคุณปู่

“กระทั่งมาถึงรุ่นคุณพ่อ ท่านได้พัฒนาไส้ขนมขึ้นมามากมาย หนึ่งในนั้นที่เป็นที่สร้างชื่อเสียงคือไส้ทุเรียนหมอนทอง พูดได้ว่าเป็นผู้ที่คิดค้นขึ้นเจ้าแรกของโลกก็ว่าได้” คุณเมล์ กล่าว

ทั้งนี้ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนนั้น เกิดขึ้นจากเมื่อครั้งที่คุณพ่อเดินทางไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ภาคใต้ และเพื่อนให้ชิมทุเรียนกวน และนำกลับมาที่กรุงเทพฯ แล้วเกิดไอเดียว่าเนื้อสัมผัสของทุเรียนกวน มีความใกล้เคียงกับไส้เม็ดบัวที่ทำขนม จึงสั่งให้กุ๊กนำไปทำไส้ขนมไหว้พระจันทร์ดู

จากนั้นก็นำไปทดลองให้ลูกค้าที่มาทานอาหารที่ภัตตาคารทานดู ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีในเรื่องรสชาติ กระทั่งลูกค้าถามที่จะซื้อ ก็ตัดสินใจทำจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

คุณเมล์ เล่าว่า ปัจจุบันขนมไหว้พระจันทร์ของกอกใจ มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ อาทิ ทุเรียนหมอนทองไข่คู่ ทุเรียนหมอนทองไข่เดี่ยว โหงวยิ้งหมูแฮมไข่เดี่ยว โหงวยิ้งหมูแฮมไม่มีไข่ ลูกบัวแมคคาเดเมียไข่เดี่ยว ลูกบัวไข่เดี่ยว ถั่วดำไข่เดี่ยว ชาเขียว งาดำไข่เดี่ยว พุทราจีนไข่เดี่ยว

นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับคนทานเจ คือ หมอนทองเจ ลูกบัวเจ โหงวยิ้งเจ งาดำเจ รวมถึงขนมต่างๆ อาทิ ขนมหน้าแตกฮ่องกง ขนมตุ๊กตามงคล ไว้บริการด้วย

ทั้งนี้ไฮไลต์ของขนมไหว้พระจันทร์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ โดยคุณเมล์ เล่าว่า ทางกอกใจยังได้พัฒนาสูตรโลว์ชูการ์ แบบลดน้ำตาลลง 50% โดยขณะนี้พัฒนามา 3 ไส้ คือ โลว์ชูการ์หมอนทองวอลนัทไข่เดี่ยว โหงวยิ้งหมูแฮมเมล็ดทานตะวันไข่เดี่ยว และลูกบัววอลนัตไข่เดี่ยว

สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ชิ้นละ 92 บาท หรือมีแบบเซตจัดเป็นชุด อาทิ ชุดทรัพย์อนันต์ 6 ชิ้น ราคา 900 บาท ชุดโชคลาภ 3 ไส้ 6 ชิ้น ราคา 620 บาท ชุดหมากรุก 8 ชิ้น ไส้ทุเรียน 390 บาท เป็นต้น

ในส่วนช่องทางจำหน่าย ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ก็หาซื้อได้ที่ สยามพารากอน ไอคอนสยาม เดอะ มอลล์ เอ็มควอเทียร์ และท็อปส์ หรือมาที่ร้านกอกใจได้

งานนี้ใครใจร้อนอยากเห็นหน้าตาขนมก่อน ก็ไปชมเรียกน้ำย่อยก่อนได้ที่ www.gokjai.com เฟซบุ๊ก : Gokjai Restaurant & Mooncake กอกใจ ขนมไหว้พระจันทร์ ติ่มซำ หรือ Line ID : @gokjai งานนี้มีบริการจัดส่งแบบดีลิเวอรีด้วยนะ!!