นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ไปเร่งจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือนิวเอสเคิร์ฟต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหารและการแพทย์ที่มีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องตามความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมหลักอื่นๆที่จะค่อยๆฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการทางเศรษฐกิจและเริ่มมีการใช้จ่ายภายในประเทศของประชาชนที่ทยอยเพิ่มขึ้น เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศยังน่าเป็นห่วงพฤติกรรมการบริโภคทั่วโลกเปลี่ยนแปลงจากเดิม ผู้บริโภคมีการบริโภคสินค้าคงทนลดลงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ขณะที่การบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ภาค อุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องยกระดับเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงนี้ให้ทัน และใช้โอกาสจากวิกฤติในครั้งนี้ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาสร้างฐานการผลิตในไทยในช่วงครึ่งปีหลังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
กรณีดังกล่าว จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมไทยจะต้องเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตสินค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ต่างประเทศที่นักลงทุนต้องการย้ายฐานการผลิตเพื่อกระจายความเสี่ยง จึงจำเป็นต้องเร่งจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างๆที่ไทยมีศักยภาพ และเตรียมความพร้อมให้แก่แรงงาน และจะเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำงานผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อมนำข้อมูลการทำงานไปวิเคราะห์และประมวลผลสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยทำให้อุตสาหกรรมการผลิตทำงานได้รวดเร็ว และสามารถผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มศักยภาพให้อุตสาหกรรมไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้.