พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า จากที่มีการประมูลคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ ที่ใช้ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อนำมาใช้รองรับเทคโนโลยี 5 จีนั้น ทำให้ผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิทัล จะต้องปรับปรุงและขยับช่วงการใช้คลื่นความถี่ ส่งผลให้ทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน หรือที่รับชมทีวีผ่านเสาก้างปลา และกล่องดิจิทัลจะไม่สามารถรับชมได้ หากผู้บริโภคไม่ปรับจูน กล่องดิจิทัลและทีวีใหม่ในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.63 ดังนั้น กสทช.จึงได้จัดทำแผนการปรับปรุงโครงข่ายทีวีดิจิทัล เพื่อมิให้ประชาชนได้รับผลกระทบ หรือได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ทั้งนี้ กสทช.ได้แบ่งพื้นที่ในการปรับปรุงโครงข่ายทีวีดิจิทัลดังนี้ พื้นที่ภาคใต้เริ่มเดือน ก.ย.63 พื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเริ่มวันที่ 5 ต.ค.63 พื้นที่ภาคเหนือเริ่มเดือน ต.ค.63 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มเดือน พ.ย.63 และพื้นที่ภาคกลางเริ่มเดือน ธ.ค.63 โดยในแต่ละพื้นที่ กสทช.ได้ประสานนักศึกษาอาชีวะ และเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือ ปรับจูนให้ครัวเรือนที่มีปัญหา ส่วนประชาชนที่รับชมทีวีผ่านกล่องดาวเทียม, เคเบิล และอินเตอร์เน็ตไม่มีปัญหาใดๆ การปรับเปลี่ยนคลื่นความถี่ครั้งนี้ เพื่อให้ประเทศเข้าสู่เทคโนโลยี 5 จี อย่างสมบูรณ์ และใช้ทรัพยากรคลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพ.