"จุรินทร์" เปิดกระทรวงพาณิชย์รับ "ออท.ญี่ปุ่น" จับมือร่วมผลักดันการส่งออกผลไม้ไทยไปแดนปลาดิบ ฝ่าภัยสู้โควิด-19 เพื่อขยายการส่งออก โดยให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดำเนินการ โดยลงนามความตกลง RCEP ในปี 2563
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 เม.ย.63 ที่กระทรวงพาณิชย์ นายคาซูยะ นาชิดะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์
โดย นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้ขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนผลไม้ไทย 9 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ทุเรียน สับปะรด มะพร้าวอ่อน มังคุด สละ มะขามหวาน ส้มโอ และกล้วยดิบ ที่สามารถส่งออกไปญี่ปุ่นได้ ผ่านกิจกรรมประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดต่างๆ โดยเฉพาะการขายตรงทางโทรทัศน์ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้ง่าย อาทิ TV Direct และ TV Shop Channel เพื่อเป็นการผลักดันผลไม้คุณภาพของไทยเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น
"รวมทั้งขอรับการสนับสนุนจากสายการบินของญี่ปุ่นที่มีเที่ยวบินจากไทย ให้เพิ่มพื้นที่ในการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อขยายการส่งออกสินค้าผลไม้ของไทยในช่วงโควิด-19 ซึ่งตนได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดำเนินการร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย” นายจุรินทร์ กล่าว
รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนในเรื่อง RCEP ญี่ปุ่นพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อให้สามารถลงนามความตกลงได้ภายในปี 2563 โดยหวังว่าจะมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้สมาชิกสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเต็มที่ และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 รวมถึงยังเห็นพ้องที่จะผลักดันให้อินเดียกลับมาเข้าร่วมการเจรจาต่อไป ทั้งนี้ปัจจุบันไทยมีการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (JTEPA) ตั้งแต่ปี 2550 ส่งผลให้ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย โดยในปี 2562 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นเป็น 57,780 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยมีการส่งออกไปญี่ปุ่นมูลค่า 24,558 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสินค้า เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
และไทยมีการนำเข้าจากญี่ปุ่นมูลค่า 33,222 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสินค้า เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น และในปี 2563 (ม.ค.-มี.ค.) มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นเป็น 13,903 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยมีการส่งออกไปญี่ปุ่นมูลค่า 6,061 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยมีการนำเข้าจากญี่ปุ่นมูลค่า 7,842 ล้านเหรียญสหรัฐ.