ส่งออกมกราคม พลิกบวกรอบ 6 เดือน ได้แรงหนุนจากทองคำน้ำมัน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่งออกมกราคม พลิกบวกรอบ 6 เดือน ได้แรงหนุนจากทองคำน้ำมัน

Date Time: 25 ก.พ. 2563 08:54 น.

Summary

  • พาณิชย์เผยส่งออกไทย ม.ค.63 ฟื้น เพิ่ม 3.35% บวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังได้แรงหนุนจากส่งออกทองคำน้ำมัน พิษสงครามการค้าลดลง สินค้าหลายกลุ่มส่งออกพุ่ง ส่วนผลกระทบโควิด-19 น่าจะเห็นชัดเจน

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

พาณิชย์เผยส่งออกไทย ม.ค.63 ฟื้น เพิ่ม 3.35% บวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังได้แรงหนุนจากส่งออกทองคำน้ำมัน พิษสงครามการค้าลดลง สินค้าหลายกลุ่มส่งออกพุ่ง ส่วนผลกระทบโควิด-19 น่าจะเห็นชัดเจนตั้งแต่เดือน ก.พ. แต่น่าจะเป็นโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งปีนี้คาดโต 0-2%

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงการส่งออกไทยเดือน ม.ค.63 ว่า มีมูลค่า 19,625.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.35% ขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่เป็นบวก แม้แต่เวียดนามยังติดลบถึง 2 หลัก ซึ่งสะท้อนถึงความเข้มแข็งของการส่งออกไทย ที่กระจายตัวได้ดี ทั้งด้านสินค้าและตลาด ทำให้ประคองการส่งออกได้ แม้จะมีความท้าทายต่างๆในเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 587,494 ล้านบาท ลดลง 4.63% ส่วนการนำเข้า 21,181.4 ล้านเหรียญฯ ลดลง 7.86% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 643,511 ล้านบาท ลดลง 14.82% ขาดดุลการค้า 1,555.7 ล้านเหรียญฯ หรือ 56,017 ล้านบาท

“การส่งออกเดือน ม.ค.63 ที่เพิ่มขึ้น มาจากการส่งออกทองคำ เพราะคนวิ่งหาทองคำเพื่อลดความเสี่ยง และยังส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น จากการที่โรงกลั่นในประเทศกลับมาเปิดอีกครั้ง หลังจากปิดปรับปรุงตั้งแต่ปลายปี 62 ขณะที่ผลกระทบจากสงครามการค้าลดลง สินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามการค้าส่งออกได้ดีขึ้น รวมถึงการส่งออกไทยกลับมาอยู่ในช่วงฟื้นตัว ซึ่งน่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งไทยยังมีสินค้ากลุ่มใหม่ๆที่ขยายตัวได้ดี ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ผลไม้ ไก่ เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัว เช่น เครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะเป็นตัวที่ช่วยผลักดันส่งออกได้เพิ่มขึ้น”

อย่างไรก็ตาม มูลค่าส่งออกเดือน ม.ค.63 ยังไม่สะท้อนผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 คาดว่าน่าจะเห็นผลชัดเจนในเดือน ก.พ.63 และน่าจะทำให้มูลค่าส่งออกลดลงได้ เพราะได้รับผลกระทบด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่จีนเข้มงวดเรื่องตู้คอนเทนเนอร์มากขึ้น ปิดด่านนำเข้าสินค้าบางด่าน แม้จะเริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.63 แต่ยังเปิดไม่เต็มที่ จึงเกิดความล่าช้าในการส่งออก แต่ในวิกฤติก็มีโอกาส โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหารที่จะส่งออกได้ดีขึ้นมาก หากโควิด-19 คลี่คลาย เพราะจะมีความต้องการอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณดีจากการนำเข้าเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้นถึง 18.7% แสดงให้เห็นว่ามี ความต้องการขยายการผลิต และมีสัญญาณการเคลื่อนย้ายซัพพลายเชน (ห่วงโซ่การผลิต) ในภูมิภาคบางส่วนเข้ามาไทย เพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้าและโควิด-19 ซึ่งไทยควรจะใช้โอกาสนี้ปรับโครงสร้างการส่งออก และการผลิตให้ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ที่ตลาดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแล้ว

น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวต่อว่า คาดว่ามูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 0-2% เมื่อเทียบกับปี 62 โดยหากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 21,049 ล้านเหรียญฯ ก็ขยายตัวได้ 2% อยู่ในวิสัยที่ทำได้ แต่เป้าหมายอย่างเป็นทางการต้องรอหลัง

จากประชุมทูตพาณิชย์วันที่ 28 ก.พ.63 ก่อน “ที่ มั่นใจว่าส่งออกปี 63 จะเป็นบวก เพราะสงครามการค้าคลี่คลาย แม้จะมีความเสี่ยงจากโควิด-19 แต่ถ้าชะลอตัวลง และควบคุมสถานการณ์ได้ จะส่งผลดีต่อการส่งออก ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่าตั้งแต่ต้นปี และกระทรวงยังมีมาตรการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกอย่างเข้มข้น”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ