Business on my way : "ธนิยะ พลาซา" ปรับใหญ่รับไลฟ์สไตล์โลกที่หมุนเร็ว

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

Business on my way : "ธนิยะ พลาซา" ปรับใหญ่รับไลฟ์สไตล์โลกที่หมุนเร็ว

Date Time: 18 ม.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • บางครั้งการทำธุรกิจหรือการสานต่อธุรกิจทุกวันนี้ จะมาหวังพึ่งแต่ความสำเร็จในครั้งอดีต และคงเชื่อมั่นในความสำเร็จนั้นต่อไปก็อาจทำให้ธุรกิจขาดศักยภาพในการแข่งขันไปได้

Latest

รอบรั้วการตลาด : ไทยเบฟต้านภัยหนาว มอบผ้าห่มสร้างความอบอุ่นให้พี่น้องคนไทย

บางครั้งการทำธุรกิจหรือการสานต่อธุรกิจทุกวันนี้ จะมาหวังพึ่งแต่ความสำเร็จในครั้งอดีต และคงเชื่อมั่นในความสำเร็จนั้นต่อไปก็อาจทำให้ธุรกิจขาดศักยภาพในการแข่งขันไปได้

เนื่องจากโลกทุกวันนี้มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านระบบเศรษฐกิจ สังคม ที่สำคัญคือด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ที่มีแต่ความก้าวล้ำอย่างต่อเนื่อง

ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่ปัจจุบันดำเนินชีวิตในวิถีที่ชอบความง่าย สะดวกสบาย รวดเร็ว ชอบบริการส่งถึงที่ เลือกใช้เลือกทานในสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนผ่านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ซึ่งจะพบเห็นได้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่

Business On My Way สัปดาห์นี้ขอพาไปรู้จักอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่แข่งขันกันดุเดือดนั้นคือ ศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานให้เช่ากับ “ธนิยะ กรุ๊ป” ที่วันนี้ตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม รวมถึงเป็นการส่งไม้ต่อธุรกิจสู่เจเนอเรชันที่ 2 ของครอบครัว นำโดย “หมอทอม” (นพ.ทัศนวัต สมบุญธรรม) ที่ดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหาร ธนิยะ กรุ๊ป

คุณทอม เล่าว่า จุดเริ่มต้นของธนิยะ กรุ๊ป คือการเปิดตัวโครงการ “ธนิยะ พลาซา” ที่ปัจจุบันเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี โดยเริ่มจากการพัฒนา ที่ดินว่างเปล่าบนถนนสีลม ให้เป็นอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า ออกแบบเป็นอาคารสองหลังที่เชื่อมต่อกัน รวมถึงเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง และสถานี รถไฟฟ้าใต้ดินสีลม

ตอนนั้นธนิยะ กรุ๊ป ถือเป็นอาคารที่ริเริ่มนำเอาคอนเซปต์มิกซ์ยูส มาใช้เป็นรายแรกๆ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเพิ่มโซนรีเทล โพเดียม ชั้น 1-4 ที่เรียกว่า ตึกหน้า (อาคารธนิยะ บีทีเอส วิง) และตึกใหญ่ (อาคารธนิยะ พลาซา) เพื่อให้เป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ โดยกว่า 80% เป็นกลุ่มร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟแบบครบวงจร ซึ่งคนเล่นกอล์ฟจะชื่นชอบและรู้จักที่นี้ เป็นอย่างดี

“ธนิยะ พลาซา จัดได้ว่าเป็น Golf Center ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกอล์ฟเป็นกีฬาที่ได้รับความ นิยมสูงมาอย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ อีก 20% เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผู้เช่าชาวญี่ปุ่นและผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นในพื้นที่ใกล้เคียง และร้านจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ เช่น ร้านขายอุปกรณ์กล้องฟิล์มที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน

“ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ธนิยะ พลาซา ถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งหนึ่งบนถนนสีลม เพื่อตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์กและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆของผู้บริโภคในอนาคต ธนิยะ กรุ๊ป จึงตัดสินใจทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรีโนเวท ธนิยะ พลาซา โซนรีเทลให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งอนาคต”

คุณทอม เล่าว่า การปรับปรุงครั้งนี้มีแนวคิดในแบบ “The Future of Thaniya” ชูรูปแบบความทันสมัยที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน โดยร่วมงานกับบริษัท สถาปนิก 49 จำกัด หรือ A49 รวมถึงมีการนำข้อมูลผลสำรวจ สิ่งที่อยากเห็นบนถนนสีลมของประชาชนสีลมว่าต้องการพื้นที่

สีเขียวเพิ่มขึ้น มาพัฒนาออกแบบพื้นที่ในแบบ Modern and Green Design มีพื้นที่รีเทลทั้งหมด 4 ชั้น รวม 12,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)
แบ่งเป็น อาคาร A (Atrium) พื้นที่รวม 8,500 ตร.ม. บนถนนธนิยะ และ อาคาร B (BTS) ติดถนนสีลม ขนาดพื้นที่รวม 3,500 ตร.ม. มีสะพานเดินเชื่อมถึงกันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างอาคาร A และ B ในชั้น 3 และชั้น 4 ส่วนในชั้น G จะมีการจัดภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น สวยงามและเชื่อมต่อกัน

นอกจากนี้ ยังมีโซนร้านค้าอาคาร A ชั้น 1-2 ออกแบบให้เป็นโซน Golf Center เพื่อเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์กอล์ฟและสปอร์ต มีไฮไลต์เป็นห้องทดสอบอุปกรณ์กอล์ฟขนาดใหญ่ รวมถึงอุปกรณ์กอล์ฟแบรนด์ชั้นนำระดับไฮเอนด์ บริเวณพื้นที่ชั้น 3 จะเป็นไลฟ์สไตล์ช็อปแหล่งรวมร้านค้า และบริการตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล อาทิ คลินิกเสริมความงามและทันตกรรม บิวตี้สโตร์ เป็นต้น

ส่วนโซนชั้น 4 จะเป็นโซนฟู้ดฮับ รวบรวมร้านอาหารแบรนด์ดัง และร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองไทยหลากหลายสไตล์มารวมไว้ ในส่วนของอาคาร B ซึ่งติดกับถนนสีลม และเชื่อมต่อกับสถานีบีทีเอสศาลาแดง แพลนว่าจะเปิดให้เป็น Flagship Store ของแบรนด์ชั้นนำ และร้านที่ให้บริการเพิ่มเติมอีกมากมาย

คุณทอม เล่าว่า นอกจากนี้ ยังได้เจรจากับแบรนด์ดัง เพื่อมาเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีกมากมาย ส่วนถนนธนิยะซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลในการดูแลของธนิยะ กรุ๊ป จะถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็นถนนสีเขียว และเพิ่มพื้นที่เพื่อการจัดกิจกรรมกลางแจ้งอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แผนการรีโนเวทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกจะเริ่มจากอาคาร A เริ่มต้นเดือน เม.ย. จนถึงเดือน ธ.ค.2563 และเฟสสอง อาคาร B คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งสองอาคารในไตรมาสแรกของปี 2564 ทั้งนี้ ร้านค้าส่วนใหญ่จะถูกย้ายไปให้บริการชั่วคราวในอาคารที่ยังไม่ได้ปรับปรุง เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับประกอบการค้าขายได้อย่างต่อเนื่อง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ