ใช้เป๋า 2 ในห้างได้เงินคืน ขยายมาตรการชิมช้อปใช้ฉลองตรุษจีน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ใช้เป๋า 2 ในห้างได้เงินคืน ขยายมาตรการชิมช้อปใช้ฉลองตรุษจีน

Date Time: 13 ม.ค. 2563 09:31 น.

Summary

  • ในการประชุม ครม. วันที่ 14 ม.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอขยายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 24-25 ม.ค. ให้ ครม.พิจารณา

Latest

เศรษฐกิจคอนเทนต์อาเซียนโตพุ่ง 4.85 แสนล้าน สวนทางรายได้ “ครีเอเตอร์” ไม่ได้เยอะอย่างที่ฝัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 14 ม.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอขยายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 24-25 ม.ค. ให้ ครม.พิจารณาซึ่งการขยายมาตรการดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มการคืนเงิน (แคชแบ็ก) กรณีการใช้จ่ายซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า เติมอีก 1 ประเภท จากปัจจุบันกระทรวงการคลังจะคืนเงินให้ จากการใช้จ่ายในร้านค้า ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าท้องถิ่น ร้านผลิตภัณฑ์ชุมชนโอทอป ร้านวิสาหกิจชุมชน สถานที่ให้บริการที่พัก เช่น โรงแรม รีสอร์ต โฮมสเตย์ หรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพและร้านธงฟ้าเท่านั้น โดยผู้ซื้อสินค้าร้านเหล่านี้ จะได้รับเงินคืน กรณีซื้อไม่เกิน 30,000 บาท ได้คืน 15% แต่หากซื้อเกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท จะได้รับเงินคืนอีก 20%

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องจากช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และยังส่งท้ายมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ที่จะสิ้นสุดโครงการวันที่ 31 ม.ค.63 กระทรวงการคลังจึงตัดสินใจขยายมาตรการดังกล่าวเพิ่มเติม โดยจะคืนเงินให้แก่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ที่ใช้เงินจากกระเป๋า 2 (G-Wallet 2) ในการซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้าจะได้รับเงินคืน 10% ของวงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 50,000 บาท หรือซื้อสินค้าครบ 50,000 บาท ได้รับเงินคืน 5,000 บาท โดยจะเริ่มมาตรการตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2563 โดยผู้เข้าร่วมโครงการสามารถซื้อสินค้าได้ทุกชนิด รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาสูบ ยกเว้นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆ เช่น สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ไฮเทค จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ปิดกั้นไม่อนุญาตให้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เข้าร่วมการใช้จ่ายในกระเป๋า 2 เพราะเกรงว่าจะถูกครหาว่าอุ้มผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่การตัดสินใจเปิดโอกาสให้ห้างสรรพสินค้าเข้าร่วมโครงการได้ เนื่องจากยอดขายของร้านค้า และภาวะเศรษฐกิจชะลอมากกว่าที่คาดการณ์ จึงจำเป็นต้องฉวยโอกาสช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งจะทำให้ประชาชน
ซื้อสินค้าได้ถูกลง เพราะปัจจุบันหากใช้จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต ห้างสรรพสินค้าจะมีโปรโมชันรับส่วนลด 10-18% อยู่แล้ว (ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของบัตรเครดิต) และหากประชาชนใช้กระเป๋า 2 จากมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” จะได้รับเงินคืนอีก 10% จะเท่ากับได้รับส่วนลดสูงถึง 20-30%
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” จำนวน 15 ล้านคน

โดยตัวเลขล่าสุด ณ สิ้นปี 62 มียอดใช้จ่ายรวม 26,981.9 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 1 (G-Wallet 1) จำนวน 11,650.9 ล้านบาท และ G-Wallet 2 ซึ่งมีการคืนเงิน 15-20% ของยอดซื้อสินค้าสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทนั้น ล่าสุดมีประชาชนใช้จ่ายเงินจากกระเป๋า 2 จำนวน 15,330.9 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายร้านชิม 4,536.1 ล้านบาท ร้านช้อป 18,691.3 ล้านบาท ร้านใช้ 268.5 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 3,282.6 ล้านบาท และโรงแรม 153.4 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังได้เริ่มทยอยคืนเงินไปแล้ว 100-200 ล้านบาท โดยมีร้านค้าสมัครเข้าร่วมมาตรการแล้วกว่า 178,603 ร้านค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” นี้ ครม.ได้อนุมัติวงเงินงบประมาณ 19,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนระยะที่ 1 (เฟส 1) เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2562 และเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมในเฟสที่ 2 และ 3 รวมแล้วมีประชาชนลงทะเบียนทั้งหมด 15 ล้านคน โดยมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.ย.62 จนถึงสิ้นเดือน ม.ค.63 ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ