ก.ล.ต.กล่าวโทษ EARTH ต่อดีเอสไอ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ก.ล.ต.กล่าวโทษ EARTH ต่อดีเอสไอ

Date Time: 27 ธ.ค. 2562 05:05 น.

Summary

  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH และกรรมการซึ่งต้องรับผิดชอบ 3 ราย

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

ปกปิด-บิดเบือนข้อความสำคัญ กรณีสิทธิ์เหมืองถ่านหินอินโดฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH และกรรมการซึ่งต้องรับผิดชอบ 3 ราย คือ 1.นายสาวิน จินดากุล 2.นางสาวภารดี เตียววณิชกุล และ 3.นายนพดล ชัยดรุณ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยการกล่าวโทษผู้กระทำผิดทั้ง 4 ราย สืบเนื่องจากที่ ก.ล.ต.อาศัยอำนาจตาม ม.58 (1) แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯสั่งให้ EARTH ชี้แจงข้อมูลความมีอยู่จริงของสิทธิ์ในเหมืองถ่านหินและทบทวนมูลค่ายุติธรรมของสิทธิ์ในเหมืองถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซีย 2 แห่ง ตามรายงานการประเมินฉบับที่ว่าจ้างให้ผู้ทำแผนฟื้นฟูจัดทำ ซึ่งมีบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ทำแผน ทั้งนี้ EARTH ได้มาซึ่งสิทธิ์ในเหมืองดังกล่าวโดยการนำสินทรัพย์ของกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่ารวมกัน 24,000 ล้านบาทไปแลกเปลี่ยน แต่ EARTH ไม่นำส่งเอกสารหรือรายงานตามที่ ก.ล.ต.สั่งการ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง และเป็นการปกปิดข้อความจริงที่ควรแจ้งในสาระสำคัญต่อผู้ลงทุน

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ก.พ.2562 EARTH เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯระบุถึงมูลค่าของสิทธิ์ ในเหมืองถ่านหิน 2 แห่ง ว่ามีมูลค่า 25,100 ล้าน บาท และ 29,000 ล้านบาท ตามรายงานบริษัทผู้ประเมิน 2 รายที่ EARTH อ้างว่าได้ว่าจ้างเอง แต่จากการตรวจสอบรายงานดังกล่าวพบว่า EARTH นำปริมาณถ่านหินที่ไม่สามารถขุดขึ้นมาขายได้และไม่มีสิทธิ์เนื่องจากเกินกว่าอายุสัมปทานที่ได้ รับมารวมคำนวณเป็นมูลค่ารวมของสิทธิ์ และ EARTH ยังระบุว่าจะเริ่มขุดถ่านหินได้ในปี 62 และปี 63 ทั้งที่ในวันที่เปิดเผยข้อมูลยังไม่ปรากฏชัดเจนว่า EARTH จะสามารถจัดหาเงินทุนมาใช้เริ่มขุดถ่านหินได้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการเผยแพร่ข้อความอันก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญ

นอกจากนี้ ก.ล.ต.และ DSI ได้หารือร่วมกันภายใต้บันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อดำเนินการ สืบสวนสอบสวนร่วมกันเพื่อหาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ประเด็นข้อสงสัยว่าอาจมีการกระทำความผิดในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสิทธิ์ในเหมืองถ่านหินของ EARTH ที่ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมกันนี้ ก.ล.ต.ยังได้แจ้งการดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯข้างต้น ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นกระบวนการตามกฎหมายต่อไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ