ปตท. ประกาศเป็นผู้นำร่องขายน้ำมันดีเซล "B10" สนองนโยบายรัฐ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ปตท. ประกาศเป็นผู้นำร่องขายน้ำมันดีเซล "B10" สนองนโยบายรัฐ

Date Time: 21 ธ.ค. 2562 12:25 น.

Video

ดร.พิพัฒน์ KKP กระเทาะโจทย์เศรษฐกิจไทย บุญเก่าเจอความเสี่ยง บุญใหม่มาไม่ทัน

Summary

  • ปตท. ประกาศเป็นผู้นำร่องพร้อมจำหน่าย PTT UltraForce Diesel B10 น้ำมันดีเซลที่จะกลายมาเป็นมาตรฐานน้ำมันใหม่ คุณภาพสูงสนองนโยบายรัฐ

Latest


ปตท. ประกาศเป็นผู้นำร่องพร้อมจำหน่าย PTT UltraForce Diesel B10 น้ำมันดีเซลที่จะกลายมาเป็นมาตรฐานน้ำมันใหม่ คุณภาพสูงสนองนโยบายรัฐ

นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า บริษัทฯ ผู้บริหารแบรนด์สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น สนองนโยบายภาครัฐในการสนับสนุนน้ำมันดีเซล B10 พร้อมตอกย้ำคุณสมบัติ PTT UltraForce Diesel B10 คุณภาพสูง เทียบเท่าน้ำมันดีเซลปกติ ในราคาประหยัดกว่าน้ำมันดีเซลปกติ 2 บาท โดยเตรียมเดินหน้าขยายให้ครอบคลุม 300 สถานี ภายในสิ้นปีนี้และตั้งเป้าเดือน มี.ค.2563 จะให้บริการครบทุกสถานีทั่วประเทศ 

ทั้งนี้ จากรายงานผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. เดือน ส.ค.คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเห็นชอบให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศไทย แทนน้ำมันดีเซล B7 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยให้น้ำมันดีเซล B7 และ B20 กลายเป็นน้ำมันทางเลือก ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป ปัจจุบันพบว่าจำนวนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลมีประมาณ 10 ล้านคัน เป็นรถยนต์ที่ค่ายรถยนต์รับรองใช้ B10 ได้ประมาณ 5.2 ล้านคัน หรือ ครึ่งหนึ่ง โดยผู้ค้าน้ำมันที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมัน B10 มีความพร้อมและสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายของภาครัฐ นโยบายดังกล่าว บริษัทฯ ได้เตรียมแผนงานเพื่อรองรับ ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนำร่องจำหน่ายน้ำมันดีเซล B10 เป็นเจ้าแรกที่ พีทีที สเตชั่น อีสต์เทิร์นซีบอร์ด จ.ชลบุรี และมีแผนขยายสถานีบริการที่มีจำหน่ายเป็น 300 แห่งภายในปี 2562 และจะมีจำหน่ายที่สถานีบริการทุกแห่งในเดือน มี.ค.2563

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เริ่มให้การสนับสนุนนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับไบโอดีเซล ผ่านงานวิจัยสถาบันนวัตกรรม ปตท. นับตั้งแต่ปี 2543 และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดีเซล B2 น้ำมันดีเซล B5 น้ำมันดีเซล B20 และล่าสุดคือ น้ำมันดีเซล PTT UltraForce Diesel B10 โดยมุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเร่งขยายยอดใช้ B 100 ผ่านการจำหน่าย B10 และ B20 เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรกรรมของไทย

นายบุญมา กล่าวต่อว่า น้ำมันดีเซล PTT UltraForce Diesel B10 ใช้น้ำมัน B100 คุณภาพสูง ที่มีความบริสุทธิ์กว่า และได้รับการรับรองจากสมาคมรถยนต์ญี่ปุ่น อีกทั้งยังผสมสารเติมแต่งมาตรฐานเดียวกับน้ำมัน PTT UltraForce Diesel จึงมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับน้ำมันดีเซลปกติ (B7) เพราะมีสารเพิ่มค่าซีเทน ทำให้อัตราเร่งดี และผสมสารทำความสะอาด ป้องกันการอุดตันของหัวฉีด ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี คืนกำลังให้กับเครื่องยนต์ รองรับทั้งรถรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กและกลาง ที่สำคัญยังมีความคุ้มค่าเพราะมีราคาถูกกว่าถึง 2 บาทต่อลิตรประการต่อมา PTT UltraForce Diesel B10 ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดควันดำได้ถึง 42% และช่วยลด PM 2.5 ได้กว่า 300 ตันต่อปี ที่สำคัญช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน สร้างความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก และลดการนำเข้าน้ำมันดิบ สร้างสมดุลให้เศรษฐกิจไทย

ขณะเดียวกันสถาบันนวัตกรรม ปตท. ได้ทำการทดสอบสมรรถนะ PTT UltraForce Diesel B10 แล้วพบว่าไม่มีผลต่อเครื่องยนต์ที่เป็นชิ้นส่วนโลหะ พลาสติก ยาง ไม่ต่างจากน้ำมันดีเซลปกติ เช่นเดียวกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงและหล่อลื่นเครื่องยนต์ก็ไม่เกิดผลกระทบใดๆ และเมื่อทดสอบผ่านระบบ Dyno Test พบว่าค่ากำลังและแรงบิดเมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซล B7 ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยใกล้เคียงน้ำมันดีเซล B7 ที่ 12 กิโลเมตร/ลิตร

นายบุญมา กล่าวอีกว่า บริษัทฯ รับประกันทุกการใช้งานของ PTT UltraForce Diesel B10 ว่าไม่ส่งผลต่อเครื่องยนต์ดีเซลแต่อย่างใด และเพื่อกระตุ้นการรับรู้ของผู้บริโภคผู้ใช้รถ รวมไปถึงเพิ่มสัดส่วนการใช้งานน้ำมันดีเซล B10 PTT Station จึงได้ทำโปรโมชั่นพิเศษเพียงลูกค้าเติม น้ำมันดังกล่าว ตั้งแต่ 1 ธ.ค.2562 – 10 ม.ค.2563 จะรับคะแนน PTT Blue card 10 เท่า หรือคิดเป็นส่วนลดสูงสุด 50 สตางค์/ลิตร อย่างไรก็ตาม PTT UltraForce Diesel B10 ยังได้รับการรับรองคุณภาพการใช้งานจากค่ายรถชื่อดังจึงเชื่อมั่นได้ โดยผู้ใช้รถสามารถตรวจสอบรุ่นรถที่ใช้น้ำมันนี้ ได้จากเว็บไซต์ของกรมธุรกิจพลังงาน และสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานีบริการน้ำมันที่มีจำหน่าย และเงื่อนไขการรับประกันได้ที่ www.pttor.com หรือโทร.1365 contact center.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ