นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การชะลอตัวของการส่งออก จากสงครามการค้า เงินบาทที่แข็งค่า การลงทุนโดยรวมที่โตต่ำกว่าประเมินไว้ ความล่าช้าของการประกาศใช้ร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563ศูนย์ฯ จึงได้ปรับลดอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ลงจากเดิม 2.8% มาอยู่ที่ 2.5% และปีหน้าได้ คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.7% โดยมีกรอบประมาณการ 2.5-3% และคาดหวังแรงหนุนจากภาครัฐ จะเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น รัฐบาลต้องเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แต่หากการเมืองมีปัญหา อาจส่งผลกระทบให้การเบิกจ่ายงบล่าช้า ก็มีผลลบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ทำให้เศรษฐกิจปีหน้า เติบโตอยู่ที่ 2.5% หรือต่ำกว่า ส่วนการส่งออกคาดว่าหดตัวต่อเนื่องประมาณลบ 1% เงินบาทอยู่ที่ 29-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ยทั้งปีที่ 30 บาทต่อดอลลาร์
นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ปีหน้าภาคการส่งออกอาจลดกำลังการผลิต ทำให้ลดการจ้างงานรวม 30,000 คนจากปี นี้ที่หายไปเกือบ 100,000 คน และคาดว่าในปีหน้า ภาคการเกษตร จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดสุด เป็นผลจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งออกลดลง และปัญหาภัยแล้งหนักกว่าปีนี้ ทำให้ผลผลิตลดลง.