คาดจีนสวาปามการค้าอาเซียน ใน 5 ปีไทยเสียหาย 1.8 แสนล้าน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คาดจีนสวาปามการค้าอาเซียน ใน 5 ปีไทยเสียหาย 1.8 แสนล้าน

Date Time: 27 พ.ย. 2562 09:30 น.

Summary

  • ผลศึกษาการค้าอาเซียน-จีน พบจีนจะสวาปามการค้าในอาเซียนอย่างไม่หยุดยั้ง คาดอีก 5 ปีข้างหน้า จะบุกแย่งส่วนแบ่งค้าขายของไทยในประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม)

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

ผลศึกษาการค้าอาเซียน-จีน พบจีนจะสวาปามการค้าในอาเซียนอย่างไม่หยุดยั้ง คาดอีก 5 ปีข้างหน้า จะบุกแย่งส่วนแบ่งค้าขายของไทยในประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) เหี้ยน กระทบยอดส่งออกหาย 1.87แสนล้านบาท แต่หากรวม “อาร์เซ็ป” สำเร็จ มูลค่าส่งออกไทยจะหายวับเกือบ 4 แสนล้านบาท

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการศึกษาภาพรวมการค้าของอาเซียนและการค้าของจีนในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ที่มีผลกระทบต่อการส่งออกและการลงทุนของไทยว่า จีนมีบทบาทและเป็นปัจจัยกระทบการค้าการส่งออกของอาเซียนรวมถึงไทยมาตลอด 15 ปี ทั้งก่อนเปิดเสรีการค้าในอาเซียน (เออีซี) และก่อนความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-จีน มีผลบังคับใช้ และยังคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า สินค้าไทยจะถูกสินค้าจีนบุกแย่งตลาดในตลาดซีแอลเอ็มวีอย่างหนักด้วย

ทั้งนี้ จากการเข้ามาของจีน ทำให้สัดส่วนการนำเข้าสินค้าระหว่างอาเซียนลดลง แต่อาเซียนนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นถึง 7.5 เท่า คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 277,009 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 4.1 เท่า คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 194,530 ล้านเหรียญ โดยเฉพาะซีแอลเอ็มวี ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 22.3 เท่า คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 58,214 ล้านเหรียญ และนำเข้าจากจีนเพิ่ม 17.6 เท่า คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 95,374 ล้านเหรียญ

นอกจากนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือตั้งแต่ปี 2563-2567 สินค้าไทยจะถูกสินค้าจีนแย่งตลาดซีแอลเอ็มวี และมูลค่าส่งออกไทยในตลาดดังกล่าวหายไป 187,795 ล้านบาท หรือ 23.83% ของมูลค่าการส่งออกไทยไปซีแอลเอ็มวี โดยเสียส่วนแบ่งตลาดมากสุดในเวียดนาม ตามด้วยลาว พม่า และกัมพูชา สำหรับสินค้าไทยที่เสี่ยงเสียส่วนแบ่งตลาดในเวียดนาม เช่น ด้าย ผ้าทอ ใยสังเคราะห์ ลอบสเตอร์และกุ้ง ไม้ แผงไม้ ปูพื้น กระเบื้องไม้เหล็ก และส่วนประกอบ ข้าวโพด เครื่องหนัง เป็นต้น

ส่วนในเมียนมา เช่น เครื่องดื่ม สุรา ซอสและผงปรุงอาหาร ผลิตภัณฑ์จากเหล็กหรือเหล็กกล้า ผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง เครื่องแต่งกาย เมล็ดธัญพืช ขณะที่ในลาว เช่น ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง ยางสังเคราะห์ ยางนอก น้ำตาล ผ้าห่มและผ้าคลุมตัว ดอกไม้เทียม ใบไม้เทียม ผลไม้เทียม พรมและสิ่งทอปูพื้น และในกัมพูชา เช่น น้ำตาล ปูนขาวและซีเมนต์ ผ้าสิ่งทอใช้ในอุตสาหกรรม “ปัจจุบันจีนเข้ามาลงทุนในซีแอลเอ็มวีมาก โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ดังนั้น หากไทยร่วมเป็นพันธมิตรด้วยการนำสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ไทยไปวางจำหน่ายตามโรงแรมหรือห้างสรรพสินค้าของจีนในประเทศซีแอลเอ็มวี จะเป็นโอกาสดีที่จะช่วยให้สินค้าไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่ภาคบริการ ที่เริ่มเปิดกิจการนวดและสปากันมากขึ้น ก็จะเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งพนักงานที่มีความสามารถเข้าไปทำงานด้วย”

อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงอีกประการคือ การเปิดเสรีภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ระหว่างอาเซียน และ 6 ประเทศคู่เจรจาคือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อาจทำให้จีนมีบทบาทในอาเซียนมากยิ่งขึ้น เกิดการทะลักของสินค้าจีนราคาถูกเข้าสู่ตลาดสมาชิกมากขึ้นอย่างที่อินเดียกังวล ซึ่งอาจจะทำให้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ไทยเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับจีนเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้อีกกว่า 1 เท่าตัว คิดเป็นมูลค่าเกือบ 400,000 ล้านบาท จากที่คาดการณ์ไว้ 187,795 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ