นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ทางซีพีเอ็นได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัทมิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในการเข้าถือหุ้นในโครงการ “เซ็นทรัล วิลเลจ” ลักชัวรีเอาต์เลตแห่งแรกของไทย ด้วยมูลค่า 1,000 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของซีพีเอ็นในเซ็นทรัลวิลเลจอยู่ที่ 70% และฝ่ายญี่ปุ่น 30% โดยทางบริษัทดังกล่าวถือว่ายักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นเป็นผู้พัฒนาเอาต์เลตที่มีสาขากว่า 9 แห่งทั่วญี่ปุ่น อาทิ โกเทมบะ, ริงกุ และชิซุย เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิบนเนื้อที่ 100 ไร่ ซึ่งได้เปิดให้บริการเฟสแรกไปเรียบร้อยแล้วเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาโดยใช้พื้นที่ไปแล้ว 70% และลงทุนไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ยังเหลือเฟสสองบนพื้นที่อีก 30% ที่เหลือขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ โดยคาดว่าจะมีแบรนด์เข้ามาเพิ่มเติมอีก 50-60 แบรนด์ จากปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 17,000 คน อัตราซื้อเฉลี่ยคนละ 1,200 บาท เป็นคนไทย 65% และต่างชาติ 35% โดยเชื่อว่าการผนึกกำลังของสองยักษ์ใหญ่ไทย-ญี่ปุ่นครั้งนี้ จะส่งผลให้เซ็นทรัล วิลเลจ ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งแห่งลักชัวรีเอาต์เลตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแท้จริง
ด้านยูทาโร โยซุซูกะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย กล่าวว่า ทางบริษัทได้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ใน 7 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตึกอาคารสำนักงาน รวมทั้งในประเทศไทย สำหรับการร่วมลงทุนกับซีพีเอ็นครั้งนี้ มีจุดแข็งที่น่าสนใจและยังทำให้สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆได้อย่างมีความเป็นมืออาชีพอีกด้วย เชื่อว่ากลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ เอสเตท จะช่วยต่อยอดความสำเร็จให้กับโครงการเซ็นทรัล วิลเลจได้อย่างแน่นอน.