สงครามการค้าโลกไม่กระทบเฉพาะ จีน กับ สหรัฐฯ เท่านั้น แต่ทุกประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบไม่น้อยหน้ากัน สหภาพยุโรป อยู่ในสภาวะย่ำแย่ยับเยิน ในอนาคต ประเทศฝรั่งเศส เบลเยียม และประเทศสมาชิกอื่นๆ คงจะประกาศถอนตัว จาก อียู เพราะไม่สามารถอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่เอื้อประโยชน์ให้กับกระเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ เยอรมนี ได้ สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรจาก ประเทศอังกฤษ ที่ประสบกับปัญหาวิกฤติ ทั้งภาครัฐและเอกชน
ลามเป็นปัญหาการเมืองไม่นิ่ง
บริษัทท่องเที่ยวยักษ์ใหญ่ ที่ประกอบธุรกิจมานับร้อยปียังมีวันล้มละลายได้ ประคับประคองอย่างไรก็เอาไม่อยู่เพราะ เศรษฐกิจดิจิทัล ที่ขยายตัวได้รวดเร็วกว่า เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่าและมีปัจจัยโน้มน้าวการตัดสินใจของผู้บริโภคมากกว่า
ในที่สุดก็จะมีผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจระดับประเทศและระดับโลก
ความหายนะของธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง จากตัวเลขของ Coresight research เปิดเผยตัวเลขในรอบ 9 เดือนของปีนี้ มี ร้านค้าปลีก ปิดตัวไปแล้วมากกว่าร้อยละ 40 ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีร้านค้าปิดตัวถึง 12,000 แห่ง อาทิ Playess ล้มละลายปิดร้านค้าทั้งหมด 2,300 ร้าน Apparel ปิดไป 110 ร้าน Forever 21 ที่มีสินค้าจำหน่ายในบ้านเราด้วย ประกาศล้มละลายปิดร้านค้าใน 40 ประเทศ
จะกระทบกับภาคแรงงานและภาคสังคมอีกมากน้อยแค่ไหน
นี่เป็นแค่หนังตัวอย่าง ในอนาคตอีกไม่ใกล้ไม่ไกล จะเห็น ธุรกิจยักษ์ใหญ่ ต้องประสบปัญหาอย่างหนัก อาทิ ธุรกิจโทรคมนาคม ที่จะเปลี่ยนจาก การใช้คลื่นความถี่ เป็นการใช้สัญญาณ wifi ที่จะยิงสัญญาณให้ใช้ฟรีไปทั่วโลก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะ กูเกิล กำลังทดลองระบบอยู่ ใน บางจังหวัดของประเทศไทย ถูกใช้เป็นพื้นที่ทดลองระบบอยู่ในเวลานี้ด้วย
ต้นทุนที่ถูกกว่าไม่ต้องมีเสาสัญญาณ ไม่ต้องมีสถานีโครงข่าย แต่ทุกพื้นที่จะอยู่ภายใต้สัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง กว่าระดับ 5G จะอยู่ในป่าในเขา กลางทะเลก็รับสัญญาณได้ มี 3 บริษัทที่ประกาศใช้ระบบการสื่อสารดังกล่าว อะเมซอน มีแผนจะนำดาวเทียมกว่า 3 พันดวงขึ้นสู่วงโคจร วันเว็บ จะส่งดาวเทียม 600 ดวงให้ได้ภายในปี 2564 สเปซเอ็กซ์ ของ อีลอน มัสก์ เพิ่งได้รับอนุญาตให้ส่งดาวเทียม 12,000 ดวงเชื่อมเครือข่ายอินเตอร์เน็ตผ่านสตาร์ลิงก์
บ้านเราเพิ่งจะเริ่มโครงการ 5G
ตราบใดที่เรายังเดินตามก้นเทคโนโลยี และไม่เข้าใจและเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างแท้จริง การจะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศเป็น 4.0 หรือดิจิทัล ไม่น่าจะเกิดประโยชน์ใดๆกับประเทศ และน่าจะเป็นความฝันหลอกๆ
ตราบใดที่เรายังไม่เข้าใจถึงเศรษฐกิจแบบพอเพียงอย่างแท้จริง มุ่งแต่ประโยชน์ทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น นอกจากการบริหารประเทศจะผิดทิศผิดทางแล้ว กำลังจะนำประเทศไปสู่การล้มละลาย.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th