นายวราพงษ์ เกียรตินิยมรุ่ง นายกสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย (VAT) เปิดเผยว่า จากพันธกิจของการจัดตั้งสมาคมโดยมีหัวใจสำคัญคือ การพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐาน สำหรับการประกอบวิชาชีพประเมินมูลค่าทรัพย์สินสู่ระดับสากล และมีความประสงค์ผลักดันให้เกิดกฎหมายวิชาชีพการประเมินราคาทรัพย์สิน โดยเชื่อว่าบทสรุป จากการประชุมสภานักประเมินราคาแห่งอาเซียน ครั้งที่ 22 ที่ไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 20-22 ต.ค.นี้ จะนำไปสู่การผลักดันกฎหมายวิชาชีพการประเมินราคาทรัพย์สินในประเทศไทยให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป
นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมผู้ประเมินราคาแห่งอาเซียน หรือ AVA (เอวา) กล่าวว่า สมาคมผู้ประเมินราคาแห่งอาเซียนมีสมาชิก 8 ประเทศคือ ไทย, มาเลเซีย, เวียดนาม, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, บรูไน และอินโดนีเซีย โดยเอวาเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแก้ปัญหาด้านการประเมินค่าทรัพย์สิน
“ส่วนตัวมองว่าการประชุมครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะผลักดันให้ไทยยกระดับวิชาชีพการประเมินราคา เนื่องจากที่ผ่านมา เราไม่มีกฎหมายควบคุมวิชาชีพนี้ และไม่มีหน่วยงานตามกฎหมายที่จะกำกับดูแล โดยร่างกฎหมายดังกล่าวคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแล้ว อยู่ที่กฤษฎีกา จากนั้นจะนำเข้าสู่สภาฯเพื่อออกเป็นกฎหมายต่อไป”
ทั้งนี้ ผลจากการที่ไม่มีการควบคุมการประเมินค่าทรัพย์สินที่เหมาะสมได้สร้างผลกระทบบ่อยครั้ง โดยล่าสุดคือ ปัญหาการประเมินราคาหลักประกันที่อยู่อาศัยสูงเกินจริง นำไปสู่ “สินเชื่อเงินทอน” จนต้องมีการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) โดยแนวทางแก้ปัญหาจึงควรเร่งผลักดันกฎหมายวิชาชีพการประเมินราคา ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว โดยคาดหากผลักดันจริงจัง 1 ปีน่าจะสำเร็จ.