นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข่าวว่า พ่อค้าไทยบางรายลักลอบนำเข้าข้าวเหนียวจากเวียดนามปริมาณไม่ต่ำกว่า 100,000 ตัน ผ่านมาทางชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะกองทัพมด เพื่อนำมาผสมกับข้าวเหนียวไทยแล้วนำมาจำหน่ายในตลาด ซึ่งมีทั้งขายแบบถุงและแบบกระสอบ เพราะราคาข้าวสารเหนียวในไทย
ขณะนี้สูงมาก อยู่ที่ประมาณตันละ 45,000-46,000 บาท หรือกิโลกรัม (กก.) ละ 45-46 บาท ส่วนราคาส่งออกตันละ 1,500 เหรียญสหรัฐฯ แต่เวียดนามเพียงตันละ 600 เหรียญ หรือ กก.ละ 18-19 บาทเท่านั้น ซึ่งจะได้กำไรส่วนต่าง กก.ละ 25 บาท
“ที่ผ่านมามีพ่อค้าบางรายถูกจับกุมได้ บางลอตแอบนำเข้ามามากถึง 30 ตัน เพราะส่วนต่างของราคาจูงใจมาก สำหรับข้าวสารเหนียวเวียดนามคุณภาพจะต่ำกว่าของไทย เมื่อหุงแล้วข้าวจะร่วน ไม่เหนียว แต่เมื่อนำมาผสมกับข้าวเหนียวไทยก็จะดีขึ้น ถ้าผู้บริโภครับประทานข้าวเหนียวแล้วรู้สึกไม่อร่อย ก็ขอให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นข้าวเหนียวลักลอบนำเข้าจากเวียดนาม”
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากไม่มีข้าวเหนียวลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในไทย อาจทำให้ราคาข้าวเหนียวในไทยขึ้นไปสูงถึง กก.ละ 60-70 บาทแล้ว เพราะไทยขาดแคลนมาก แต่ล่าสุดราคาเริ่มลดลงมาแล้วเหลือ กก.ละ 40-41 บาท ส่วนหนึ่งมาจากการผลิตข้าวสารเหนียวบรรจุถุงราคาถูกขายให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงความเข้มงวดในการตรวจสอบสต๊อก และข้าวเหนียวฤดูกาลใหม่กำลังจะออกสู่ตลาดในเดือน ต.ค.นี้ ทำให้พ่อค้าไม่กล้าเก็งกำไร
ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผลผลิตข้าวเหนียวใกล้ออกสู่ตลาดแล้ว กรมจะพิจารณาอย่างรอบคอบในการผลิตข้าวสารเหนียวบรรจุถุงราคาถูก เพราะอาจกระทบต่อราคาข้าวเปลือกของเกษตรกรได้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัด โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รายงานกระทรวงพาณิชย์ว่า ร้านธงฟ้าและประชาชนในพื้นที่เรียกร้องให้กรมการค้าภายในรีบจัดส่งข้าวเหนียวถุงราคาถูกไปให้โดยเร็ว เพราะรอซื้อมานานแล้ว ตั้งแต่ปล่อยคาราวานรถบรรทุกข้าวเหนียวเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถหาซื้อได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ข้าวเหนียวถุงน่าจะส่งไปถึงร้านธงฟ้าในหลายพื้นที่แน่นอน.