TMA การบริหารจัดการองค์กรยุคใหม่ เชิญผู้นำองค์กรและสถาบันชั้นนำ ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ แชร์มุมมองแนวคิด เพื่อการพัฒนาบุคคล-องค์กร ก้าวไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ ในโอกาสครบรอบ 55 ปี
เมื่อวันที่ 13 ส.ค.62 สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย หรือ TMA จัดงานครบรอบ 55 ปี ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารจัดการองค์กรยุคใหม่ โดยเชิญผู้นำจากองค์กรและสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ มุมมอง และแนวความคิด เพื่อการพัฒนาบุคคลและองค์กรก้าวสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ
โดย Professor Dr. Barry Katz, IDEO fellow, consulting Professor of mechanical Engineering, Stanford University จากประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้าร่วมงาน TMA Top Talk และนำเสนอแนวคิดภายใต้เรื่อง "Design with a Purpose" ได้มาบรรยายให้ฟังว่า การออกแบบเมืองก็จะต้องคำนึงถึงวิถีชีวิต และความต้องการของผู้คนที่อยู่อาศัยในเมืองนั้นๆเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องออกแบบให้ผู้คนมีความสะดวกในการเดินทางการขนย้ายสิ่งของต่างๆ หรือแม้แต่การจับจ่ายใช้สอย สำหรับการออกแบบทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเช่น การออกแบบปัญญาประดิษฐ์ เราก็จะต้องใช้แนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงความต้องการของมนุษย์เป็นหลัก และควบคุมดูแลออกแบบปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ก่อนที่มันจะพัฒนาตัวเอง จนกระทั่งมาออกแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์
อย่างไรก็ตามฉะนั้นมนุษย์จึงต้องออกแบบชีวิตของตนว่า ต้องการใช้ชีวิตอย่างไร ซึ่งในปัจจุบันยังมีการออกแบบแม้กระทั่งการตายว่า เราต้องการที่จะตายอย่างไรอีกด้วย ทั้งนี้การออกแบบที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การออกแบบอนาคต ซึ่งเราควรออกแบบอนาคตที่เน้นการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่จะสามารถช่วยสร้างความยั่งยืนของโลกใบนี้ได้ต่อไปด้วย
ขณะเดียวกันงาน Leaders Forum ในหัวข้อ "The New Competitiveness Agenda: Designing a Compatible Future for All" TMA ได้รับเกียรติจาก Professor Stephane Garelli, Founder of IMD World Competitiveness center ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Mr.Martin Wezowski, Chief designer & futurist and Chief innovation office, SAP's Innovation center network ประเทศเยอรมนี และ Professor Dr. Barry Katz
Professor Stephane Garelli กล่าวว่า จุดมุ่งหมายสูงสุดของบริษัทชั้นนำระดับโลก จะไม่ใช่เรื่องของการทำกำไรอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องกลับมาคิดว่าโมเดลทางธุรกิจต่อไปของแต่ละบริษัทควรจะเป็นอย่างไร โดยบริษัทด้านเทคโนโลยีจะมีอิทธิพลสร้างผลกระทบต่อภาพรวมทั้งโลกมากขึ้น และเกิดเป็นคำถามเกี่ยวกับ mindset ที่ต้องปรับปรุง เพราะคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริโภคอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจึงต้องกลับมาคิดทบทวนเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินธุรกิจ และศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคใหม่
Mr. Martin Wezowski กล่าวย้ำว่า ไม่มีใครรู้ถึงโลกในอนาคตได้ ดังนั้นการเตรียมตัวหรือรับมือกับอนาคต ธุรกิจควรเริ่มจากการปรับวิธีการตั้งคำถามใหม่ โดยตั้ง "ความหวัง" ที่ต้องการอยากจะเห็นเพื่อใช้เป็นตัวชี้นำให้เห็นทิศทางที่ต้องการจะไปในอนาคต และใช้ "จินตนาการ" ในการปรับกระบวนการคิดและวิธีการดำเนินชีวิตในอนาคต ในการวาดภาพอนาคตที่ต้องการ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกระดับ จึงมีความจำเป็นที่ต้องดึงประชาชนในทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการระดมความคิด ยิ่งมีความหลากหลายมากเท่าไหร่ จะยิ่งช่วยให้เกิดไอเดียใหม่เพิ่มมากขึ้น และค่อยๆหาวิธีลงมือทำให้เกิดขึ้นทีละจุดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และเชื่อมโยงจุดเหล่านั้นให้เป็นเส้นทางที่ต้องการ
สำหรับในแง่การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) Mr.Martin มองว่าการทำงานร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย จะเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ทั้งการนำ Machine learning และ AI มาช่วยในการทำงานที่มีลักษณะเป็นรูทีน หรืองานที่มนุษย์อาจตรวจสอบได้ไม่ทั่วถึง โดยในแง่ของการใช้พลังงาน แม้ว่าในช่วงแรกการใช้เทคโนโลยีเหล่านั้น อาจบริโภคพลังงานมากกว่า แต่จะค่อยๆลดลงไปตามลำดับ