“สุริยะ” สั่งรื้อแผนผลิตรถอีวี

ตั้งเป้าราคาต่ำกว่า 8 แสนให้คนเอื้อมถึง

“สุริยะ” มอบหมาย สศอ.แก้ไขมาตรการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) หลังนักลงทุนเมินไม่ให้ความนิยมมาลงทุนเผยมีแผนออกมาตรการเสริมทำราคารถให้ต่ำกว่า 800,000 บาท อีกทั้งเตรียมเสนอ “สมคิด” ตั้งสำนักงานที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมในต่างประเทศ ชูแผน ก.ย.นี้ ดึงนักลงทุนจีน 300 รายมาเยี่ยมชมอีอีซี

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบาย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ว่า ได้ให้ สศอ.ไปทบทวนมาตรการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (รถอีวี) ภายในประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาออกมาตรการส่งเสริมมาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคายังสูงอยู่ และระบบสนับสนุนต่างๆ เช่น ปั๊มชาร์จมีจำนวนไม่มาก ขณะเดียวกัน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาให้นโยบายที่กระทรวง วันที่ 14 ส.ค. ตนก็จะนำประเด็นที่ สศอ.เสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งสำนักงานที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมในต่างประเทศ ณ ประเทศจีน เพิ่มเติม เนื่องจากจีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีศักยภาพ มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทยจำนวนมาก จากปัจจุบันมีที่ประเทศออสเตรีย และที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อยู่ระหว่างเลือกพื้นที่เหมาะสมระหว่างกรุงปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ เพื่อทำหน้าที่ในการทำข้อตกลง ความร่วมมือกันกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อประสานความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมโดยตรง

“สำนักงานแห่งนี้ จะไม่ซ้ำซ้อนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในต่างประเทศที่มีอยู่แล้วในแต่ละประเทศ เพราะบีโอไอทำหน้าที่ชักจูงนักลงทุน คุยเรื่องสิทธิประโยชน์ ส่วนสำนักงานของกระทรวงเป็นการทำความตกลงกับหน่วยงานในพื้นที่ว่า จะมีความร่วมมืออะไรบ้าง และในเดือน ก.ย. จะเชิญนักลงทุนจีนกว่า 300 ราย เข้ามารับทราบนโยบายของรัฐบาล ่ในการสนับสนุนมาตรการการลงทุนต่างๆ รวมถึงพาเยี่ยมชมพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อให้เห็นสถานที่จริง จะเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อกระตุ้นการลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง”

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า สศอ.กำลังพิจารณาปรับมาตรการส่งเสริมการลงทุน ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ตอบโจทย์การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเข้มแข็งในไทย เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ปัญหาหลัก 3 ประการ คือ 1.รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาสูงเกินไป ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้น จะต้องออกมาตรการเข้ามาเสริมเพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาต่ำกว่า 8 แสนบาทต่อคัน ซึ่งมาตรการใหม่นี้ จะเพิ่มการส่งเสริมเพื่อให้เกิดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก รวมไปถึงรถสามล้อไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เพื่อให้มีราคาต่ำลงกระทั่งคนทั่วไปเข้าถึงได้

“รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันมีราคาตั้งแต่ 1.2 ล้านบาทขึ้นไป ถือเป็นราคาที่สูงเกินกว่าประชาชนจะเอื้อมถึง ทำให้ตลาดจำกัดอยู่ในวงแคบ ไม่ดึงดูดให้เกิดฐานการลงทุนขนาดใหญ่ในไทยได้ ถ้าหากตลาดมีความต้องการมากขึ้น ก็จะเกิดการลงทุนผลิตชิ้นส่วนต่างๆภายในประเทศ และราคารถยนต์ไฟฟ้าก็จะลดต่ำลงเรื่อยๆ ทำให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิตที่เข้มแข็งในภูมิภาคต่อไปได้”

ส่วนประการที่ 2.มาตรการเดิมก็ยอมรับว่า ไม่สามารถดึงดูดเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าหลักๆ เข้ามาลงทุนในไทยได้ โดยมาตรการใหม่ที่จะปรับกฎเกณฑ์ เพื่อดึงดูดการลงทุนในชิ้นส่วนหลักๆ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ และระบบควบคุมการขับรถ เพื่อยกระดับให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่เป็นเพียงการประกอบรถยนต์ไฟฟ้า 3.ส่งเสริมให้เกิดการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ามากขึ้น โดยจะส่งเสริมให้เน้นการผลิตรถยนต์ที่มีระบบชาร์จไฟฟ้า เช่น รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้า และใช้น้ำมันเชื่อเพลิงได้ และรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ.