นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 43 ราย ซึ่งมีทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก จากทั้งหมด 353 ราย ไม่ได้จัดส่งข้อมูลราคาซื้อและขายยามาให้กรม ตามกำหนดภายในวันที่ 31 ก.ค.62 ภายหลังจากที่ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 52 ที่กำหนดมาตรการกำกับดูแลยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ มีผลบังคับใช้เมื่อเร็วๆนี้ และกำหนดให้โรงพยาบาลเอกชน ต้องส่งราคายามาให้กรมภายในวันที่ 31 ก.ค.62
ดังนั้น ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการออกหนังสือเรียกไปยังโรงพยาบาลทั้ง 43 ราย เพื่อมาให้ถ้อยคำ หรือชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งกรมสามารถดำเนินการได้ภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยหากออกหนังสือเรียกแล้ว โรงพยาบาลยังเพิกเฉยไม่มาชี้แจง หรือไม่ให้ความร่วมมืออีก กรมจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยกรณีไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีไม่แจ้งราคา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืน
สำหรับราคาซื้อและขายยาที่โรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่ส่งมาให้กรมตามกำหนดนั้น กรมได้นำไปจัดทำเป็นฐานข้อมูลเพื่อเผยแพร่ในเว็บไซต์กรม และจัดทำเป็นคิวอาร์โค้ด แล้วจะจัดส่งไปให้โรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งแสดงไว้ตามจุดต่างๆ
ที่เห็นได้ง่าย เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาล สามารถสแกนเพื่อเปรียบเทียบราคายาแต่ละชนิด ที่ขายในโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้บริการของโรงพยาบาล
ด้านนายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า อยู่ระหว่างการศึกษาวิเคราะห์โครงสร้างของโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อจะได้รู้ถึงพฤติกรรมการค้าทำธุรกิจของโรงพยาบาลเอกชนว่ามีการแข่งขันทางการที่เสรี และเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งหากพบว่า)โรงพยาบาลแห่งใดมีการฮั้วกันกำหนดราคาขายยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ จนทำให้โรงพยาบาลคู่แข่งเสียหายทางธุรกิจ หรือมีการจำกัดการแข่งขัน ขัดขวาง หรือกีดขวางการทำธุรกิจ จนโรงพยาบาลคู่แข่งเสียหาย จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 โดยต้องชำระค่าปรับทางปกครองไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำผิด.