นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่ไทยประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ประเทศคู่ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากไทย ทำให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับเติบโตขึ้นมาก โดยเมื่อเปรียบเทียบสถิติการส่งออกในปี 61 กับปี 35 ซึ่งเป็นปีก่อนที่เอฟทีเอฉบับแรกของไทยกับอาเซียนมีผลบังคับใช้ ในช่วง 26 ปีที่ผ่านมาพบว่า มูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับขยายตัวสูงขึ้นถึง 659% โดยการส่งออกไปอาเซียนขยายตัวมากสุดถึง 4,680% รองลงมาคือจีน ขยายตัว 2,757% เกาหลีใต้ ขยายตัว 1,586% อินเดีย ขยายตัว 838% นิวซีแลนด์ ขยายตัว 452% ออสเตรเลีย ขยายตัว 99% และญี่ปุ่น ขยายตัว 72%
สำหรับในปี 61 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 11,977.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 4.74% ของมูลค่าส่งออกรวมของไทย โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อาเซียน ฮ่องกง และสวิตเซอร์แลนด์ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องประดับแท้ที่ทำด้วยเงินและทอง อัญมณีประเภทเพชรและพลอย เป็นต้น ส่วนการส่งออกไปประเทศคู่เอฟทีเอ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู ชิลี และฮ่องกง มูลค่า 6,202.6 ล้านเหรียญ คิดเป็น 51.78% ของมูลค่าส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับรวมของไทย
“แม้ประเทศคู่เอฟทีเอของไทยในทุกกรอบ ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว แต่กรมจะผลักดันการเจรจาในส่วนอื่นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกการค้าให้ผู้ประกอบการต่อเนื่อง เช่น การเจรจากฎว่าด้วย ถิ่นกำเนิดสินค้าให้สะท้อนรูปแบบกระบวนการผลิตสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในปัจจุบัน”.