นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามผลการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-เกาหลีใต้ และพบว่า ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีมูลค่าสูงถึง 13,766 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17.9% เมื่อเทียบกับมูลค่า 11,671 ล้านเหรียญฯ ในปี 2553 ที่ความตกลงเริ่มมีผลบังคับใช้
สำหรับเอฟทีเอดังกล่าว เกาหลีใต้ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 11,927 รายการ คิดเป็น 90.9% ของรายการสินค้าทั้งหมด ยังคงเหลือกลุ่มสินค้าที่ไม่ลดภาษี 1,130 รายการ หรือ 9% เช่น ไม้อัด ข้าวโพดหวาน มันสำปะหลังแช่แข็ง มันสำปะหลังอัดเม็ด ขณะที่ไทยไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกาหลีใต้ 8,455 รายการ คิดเป็น 88% คงเหลือกลุ่มสินค้าที่ยังไม่ลดภาษี 1,155 รายการ หรือ 12% เช่น ส่วนประกอบวิทยุ โทรทัศน์ แผ่นเหล็กรีดร้อน ส่วนประกอบยานยนต์
“ขณะนี้ ไทยและเกาหลีใต้กำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในการทบทวนความตกลง เพื่อเปิดตลาดเพิ่มเติมในสินค้าที่ยังไม่ได้ลดภาษีระหว่างกัน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า 2 ฝ่าย”
ขณะที่ในปัจจุบันเกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 10 ของไทย และคู่ค้าอันดับ 5 ของอาเซียน โดยปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าไทย-เกาหลีใต้ อยู่ที่ 13,766 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 8.76% แบ่งเป็นไทยส่งออก 4,888 ล้านเหรียญฯ สินค้าส่งออกสำคัญๆ เช่น ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องคอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม เป็นต้น และไทยนำเข้า 8,877 ล้านเหรียญฯ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกล
“ผลการใช้สิทธิเอฟทีเออาเซียน-เกาหลีใต้ เพื่อส่งออกสินค้าไปเกาหลีใต้ พบว่ามีมูลค่า 3,045 ล้านเหรียญฯ หรือ 62% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิ สินค้าส่งออกของไทยที่ใช้สิทธิสูงสุด เช่น น้ำตาลจากอ้อย แผ่นไม้อัด น้ำมันปิโตรเลียม เครื่องปรับอากาศ ขณะที่ไทยนำเข้าจาก เกาหลีใต้ โดยใช้สิทธิเอฟทีเอ 2,448 ล้านเหรียญฯ หรือ 27% ของมูลค่าการนำเข้ารวม สินค้านำเข้าที่ไทยใช้สิทธิสูงสุด เช่น แผ่นเหล็กไม่เจือรีดเย็น น้ำมันดิบ แผ่นเหล็กชุบหรือเคลือบ”.