SPCG ขานรับโซลาร์รูฟภาคปชช. 100 เมกะวัตต์ หนุนสร้างมั่นคงพลังงานชาติ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

SPCG ขานรับโซลาร์รูฟภาคปชช. 100 เมกะวัตต์ หนุนสร้างมั่นคงพลังงานชาติ

Date Time: 25 มี.ค. 2562 22:50 น.

Video

โมเดลธุรกิจ Onlyfans ทำไมถึงมีแต่ได้กับได้ ? บริษัทมั่งคั่ง คนทำก็รวย | Digital Frontiers

Summary

  • SPCG ขานรับนโยบายติดตั้งโซลาร์รูฟภาคประชาชน 100 เมกะวัตต์ หนุนสร้างความมั่นคงพลังงานชาติ จัดแพ็คเกจพิเศษคืนทุนระยะสั้น ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าระยะยาว แนะเลือกใช้ของดีมีประสิทธิภาพยาวนาน 30

Latest


SPCG ขานรับนโยบายติดตั้งโซลาร์รูฟภาคประชาชน 100 เมกะวัตต์ หนุนสร้างความมั่นคงพลังงานชาติ จัดแพ็คเกจพิเศษคืนทุนระยะสั้น ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าระยะยาว แนะเลือกใช้ของดีมีประสิทธิภาพยาวนาน 30 ปี

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.62 ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ภาคประชาชน จำนวน 100 เมกะวัตต์ (MW) ว่า บริษัท SPCG ในฐานะผู้นำอันดับ 1 ในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า และต่อยอดมาสู่ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ โซลาร์รูฟ ยินดีที่ได้เข้ามามีส่วนนโยบายโซลาร์ภาคประชาชนจำนวน 100 MW ครั้งนี้ ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาด 10 % โดยได้เตรียมแผนการตลาดหลากหลายมากขึ้น มีแพ็คเกจราคาพิเศษเพื่อสนองตอบให้ตรงกับความต้องการของประชาชนทุกระดับที่ติดตั้งเพื่อใช้เอง มีความคุ้มค่ามากที่สุด และสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาเพียง 6 ปี

อย่างไรก็ตามบริษัทฯขอแนะนำประชาชนควรเลือกผู้ผลิตและจัดจำหน่ายที่มีความมั่นคง เพราะอายุการใช้งานของแผงเซลล์แสงอาทิตย์นั้นยาวนาน 20 – 30 ปี ซึ่งระบบอุปกรณ์ทุกชิ้นต้องมีประวัติการใช้งานมายาวนาน และต้องเน้นในเรื่องความปลอดภัยต่อการใช้งานด้วย โดย SPCG เลือกใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์คุณภาพสูงจาก Kyocera Corporation ประเทศญี่ปุ่น ใช้เครื่องแปลงไฟฟ้า (Inverter) จาก SMA ประเทศเยอรมนี และทีมงาน EPC ที่ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ SPCG ก็มีประสบการณ์มานานนับ 10 ปีแล้ว ดังนั้นการจะเลือกผู้ประกอบการที่จะดำเนินเรื่องระบบโซลาร์รูฟที่มีคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสพีซีจีฯ กล่าวด้วยว่าการที่ภาครัฐรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากการใช้งานเพื่อประหยัดไฟฟ้าของครัวเรือนแล้ว นับเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าและการเป็นผู้นำของประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง ที่มีแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของภาครัฐที่มองเห็นประโยชน์จากการที่ประชาชนติดตั้งระบบโซลาร์รูฟ เพื่อการประหยัดค่าไฟฟ้าและยังสามารถนำไฟฟ้าที่เหลือใช้มาขายคืนกลับเข้ารัฐได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ภาครัฐเคยเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ติดตั้งโซลาร์รูฟ และติดต่อขอขายไฟฟ้าให้ภาครัฐได้ในครั้งก่อน จำนวน 100 MW ปรากฏว่ามีประชาชนให้การตอบรับมากถึง 7 เท่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้เป็นโมเดลใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แสดงให้เห็นว่าการประกาศนโยบายโซลาร์ภาคประชาชนครั้งนี้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง คือมุ่งเน้นการติดตั้งไว้ใช้งานเองเพื่อประหยัดพลังงาน ส่วนที่เหลือสามารถขายคืนกลับเข้าการไฟฟ้าของภาครัฐได้ และที่สำคัญทุกครัวเรือนสามารถติดตั้งได้ สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.02-011-8111 ต่อ 921,922 หรือดูลายละเอียดได้ที่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เว็บไซต์ http://www.spcg.co.th/ , และ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ SPR เว็บไซต์ http://www.sprsolarroof.co.th/


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ