นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังการลงนามระหว่าง ปตท. เพื่อร่วมลงทุน ในโครงการหน่วยแยกอากาศ โดยใช้พลังงานความเย็นเหลือทิ้งจากก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในการผลิตก๊าซอุตสาหกรรม (ASU) ร่วมกับบริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือบีไอจี ในฐานะผู้ผลิตก๊าซอุตสาหกรรมชนิดต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม โครงการตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท กำลังผลิต 450,000 ตันต่อปี เปิดดำเนินการ ผลิตในปี 2564 และยังสามารถนำ ASU ไปใช้ในโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (อีเอฟซี) ได้อีกด้วย ซึ่งการผลิต ASU เป็นการผลิตจากหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ ปตท.ในการนำพลังงานความเย็นเหลือทิ้งไปเป็นแอลเอ็นจี ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 28,000 ตันต่อปี
นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี) กล่าวว่า โครงการนี้บีไอจีถือหุ้น 49% ปตท.ถือหุ้น 51% ความร่วมมือครั้งนี้ ยังสามารถนำไนโตรเจนที่ผลิต ได้จากโครงการไปต่อยอดนวัตกรรม ในการรักษาคุณภาพความสดใหม่ของผลไม้ก่อนที่จะนำไปเก็บในห้องเย็น ทำให้สามารถเก็บรักษาผลไม้ไว้ได้และมีคุณภาพที่ดีขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร.