บินไทยได้ฤกษ์ จัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ มั่นใจ ครม.อนุมัติก่อนสิ้นปี “สุเมธ” พ้อ 3 ปีสุดอืด เสียส่วนแบ่งการตลาดกว่า 10% ตรงข้ามทั่วโลกโตเฉลี่ยกว่า 3% ตั้งเป้า 5 ปี ซื้อให้ครบ 125 ลำ เสริมศักยภาพ...
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บอร์ดการบินไทยได้เห็นชอบกรอบแผนการจัดหาเครื่องบินเพื่อมาทดแทนเครื่องบินเก่าจำนวน 38 ลำ ตามที่บอร์ดการบินไทยอนุมัติ เมื่อ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามมติครม.เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 54 ที่อนุมัติให้จัดหาเครื่องบินจำนวน 75 ลำ แต่ที่ผ่านมาได้มีการจัดหาเครื่องบินไปแล้ว 37 ลำ รวมทั้งได้มีการอนุมัติให้ขยายเวลาดำเนินการจัดหาเครื่องบินจากเดิมต้องเริ่มในปี 61 แต่การจัดหามีความล่าช้า จึงให้เริ่มจัดหาปี 62-66/67
นอกจากนั้นบอร์ดการบินไทยยังมีมติให้ฝ่ายบริหารได้จัดทำร่างแผนของการจัดหาเครื่องบิน รายละเอียดของธุรกิจ ผนวกเข้ากรอบจัดหาในครั้งนี้ให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ ก่อนเสนอบอร์ดการบินไทย คมนาคม และสภาพัฒน์ ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องเสนอ ครม. ภายในเดือนธ.ค.61 นี้
อย่างไรก็ตามในสภาวการณ์เช่นนี้การบินไทยมีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดหาเครื่องบิน เพื่อเข้ามาประจำฝูงบิงใหม่ และการเสนอกรอบการจัดหาเครื่องบินครั้งนี้ ถือได้ว่าการบินไทยเสนอช้าไปมาก เนื่องจากปัจจุบันเครื่องบินการบินไทยใช้เต็มขีดความสามารถไปมาก ประกอบกับเครื่องการบินไทยเสียมาก ต้องมีการเข้าซ่อม และที่สำคัญใน 3 ปีที่ผ่านมา การบินไทยสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในภาพรวมไปกว่า 10% จากเดิมเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดภาพรวมต้องโตเฉลี่ยปีละ 3% ดังนั้นหากการบินไทยจะต้องรักษาสภาพอัตราการเติบโตให้เหมือนกับการเติบโตของธุรกิจทางการบินสายการบินอื่นๆ จะต้องมีเครื่องบินเข้าประจำฝูงบิน เพื่อให้การบินมีศักยภาพสูงสุดที่ 125 ลำภายใน 5 ปี ในขณะที่ปัจจุบันการบินไทย มีเครื่องบินประจำฝูงบินเพียง 100 ลำเท่านั้น
สำหรับรูปแบบของกรอบการจัดหาเครื่องบินอาจจะเป็นทั้งการซื้อ การเช่า และการเช่าซื้อ ซึ่งในส่วนนี้ทางฝ่ายบริหาร จะต้องมาพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง ขณะเดียวกันในที่ประชุมบอร์ดการบินไทยยังมีการพิจารณาแผนธุรกิจทางการบิน ตามที่ทางฝ่ายที่ปรึกษาทางธุรกิจการบินของการบินไทย เสนอแผน ซึ่งแผนธุรกิจทางการบิน จะมีรายละเอียดในเรื่องของเส้นทางบิน, รุ่นเครื่องบินที่จะจัดหา รวมถึงแหล่งเงินที่จะจัดหา
ส่วนการเปิดเส้นทางบินสหรัฐฯ ขณะนี้จะต้องรอผลการพิจารณาของสำนักงานบริหารการบินสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ที่จะเข้ามาตรวจสอบทางด้านเทคนิค เพื่อพิจารณาเลื่อนระดับมาตรฐานความปลอดภัยจากระดับ 2 เป็นระดับ 1 ก่อน โดยในระยะแรกการบินไทย จะยังไม่เปิดเส้นทางบินตรงเอง แต่จะทำการบินร่วมกับสายการบินอื่น หากมีผลตอบรับดีจะพิจารณาเปิดเส้นทางบินไปสหรัฐฯเอง.