ทอท.ยันเดินตามแผนแม่บท

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ว่า จากที่ได้มีการประชุมร่วมกันกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เพื่อทำความเข้าใจในการดำเนินงานในโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 พบว่า ทอท.ได้เดินตามแผนแม่บทที่ได้มีการปรับตามสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว ทั้งเรื่องขนาดของสนามบิน จำนวนเครื่องบินที่จะมาใช้งาน และปริมาณผู้โดยสารที่ต้องเพิ่มมากขึ้น

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ได้ดำเนินการตามแผนแม่บทในโครงการพัฒนาขยายขีดความสามารถสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2-3 ซึ่งตามแผนแม่บทได้มีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เพื่อความเหมาะสมทุกประการ โดยในปีนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ได้เห็นชอบแผนการพัฒนาสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 พร้อมทางเชื่อมเข้าอาคาร หลุมจอด 14 หลุมจอด รวมวงเงิน 42,000 ล้านบาทแล้ว

ทั้งนี้ การดำเนินการตามแผนแม่บทในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 หากมีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรอง (แซทเทิลไลท์) และสร้างหลุมจอด 28 หลุมจอด แล้วเสร็จจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสาร

รวมได้กว่า 90 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันที่มีอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มี 26 หลุมจอด รองรับปริมาณผู้โดยสารได้ 45 ล้านคน/ปี ส่วนอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 เมื่อก่อสร้างแล้วจะรองรับผู้โดยสารได้อีก 30 ล้านคน/ปี
ด้านนายมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ว่า วานนี้ (3 ต.ค.) ได้นำเสนอผลการศึกษาและความเห็นจากภาคเอกชน รายงานในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อพิจารณาภาพรวมการพัฒนาโครงการทั้งหมด ก่อนจะเดินหน้าจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเปิดประมูลจัดหาเอกชนร่วมลงทุน

“ก่อนหน้านี้ กทท.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ข้อสรุปของรูปแบบการพัฒนาโครงการแล้ว และหากคณะกรรมการอีอีซีเห็นชอบในหลักการ กทท.ก็จะเร่งจัดทำทีโออาร์ ปัจจุบันเดินหน้าไปแล้วกว่า 95% และคาดว่าเปิดประมูลได้ภายในเดือน ต.ค.นี้”.