ทุ่มพันล้านยึดสปริงนิวส์! "ทีวีไดเร็ค" แปลงร่างผู้เช่าเป็นเจ้าของ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ทุ่มพันล้านยึดสปริงนิวส์! "ทีวีไดเร็ค" แปลงร่างผู้เช่าเป็นเจ้าของ

Date Time: 24 ก.ย. 2561 09:01 น.

Summary

  • “ทีวีไดเร็ค” ทุ่มพันล้านยึดทีวีดิจิทัลช่องสปริงนิวส์ ทยอยจ่ายค่าหุ้นเป็นรายเดือน 124 เดือน ตามเวลาที่เหลืออยู่ของใบอนุญาตทีวีดิจิทัล เดินหน้าใช้วิดีโอมาร์เก็ตติ้งสยายปีกสู่ตลาดออนไลน์

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย


“ทีวีไดเร็ค” ทุ่มพันล้านยึดทีวีดิจิทัลช่องสปริงนิวส์ ทยอยจ่ายค่าหุ้นเป็นรายเดือน 124 เดือน ตามเวลาที่เหลืออยู่ของใบอนุญาตทีวีดิจิทัล เดินหน้าใช้วิดีโอมาร์เก็ตติ้งสยายปีกสู่ตลาดออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เข้าซื้อหุ้นบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น (SPTV) ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ภายใต้ใบอนุญาตสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จากบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น (SPC) ไม่น้อยกว่า 90.10% ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NEWS) มูลค่า 949.22 ล้านบาท โดยทีวีไดเร็คจะชำระค่าหุ้นให้เดือนละ 7,655,000 บาท เป็นเวลา 124 เดือน ตามเวลาที่เหลืออยู่ของใบอนุญาตทีวีดิจิทัลของ SPTV ที่จะสิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย.72

นอกจากนี้ ทีวีไดเร็คจะจ้าง SPC ผลิตรายการข่าวและสาระเพื่อออกอากาศในช่อง SPTV โดยชำระค่าผลิตรายการข่าวฯ เดือนละ 1,055,000 บาท และยังให้สิทธิ SPC ขายเวลาโฆษณาอีก 30% ของเวลาที่ SPC ผลิตรายการข่าวสารและสาระเดือนละ 540,000 บาท รวมเป็น 1,595,000 บาท เป็นเวลา 124 เดือน รวมมูลค่า 197.78 ล้านบาท

ขณะที่ฝ่ายผู้ขายคือสปริงนิวส์ หรือ SPC นั้น ตกลงจะรับผิดชอบชำระหนี้คงค้างทั้งหมดของ SPTV ได้แก่ ค่าใบอนุญาต ค่าบริการโครงข่าย (MUX) ค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิทัลที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (Must Carry) รวมทั้งหนี้สินต่างๆ ตลอดจนภาระผูกพันที่มีอยู่ก่อนวันซื้อขายหุ้นสำเร็จ อีกเงื่อนไขสำคัญคือ SPC ต้องคงเงินสด 234.97 ล้านบาท เพื่อชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัลในงวดสุดท้าย ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นของ SPTV และทีวีไดเร็คจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของทีวีไดเร็ค ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นวันที่ 23 พ.ย.นี้

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีไดเร็คฯเปิดเผยว่า แม้จะเข้าถือหุ้นในช่องสปริงนิวส์แล้ว แต่ทีวีไดเร็คจะยังคงการออกอากาศบนช่องทีวีดาวเทียมซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 ช่องเอาไว้เช่นเดิม รวมทั้งการเป็นพันธมิตรเช่า-ซื้อเวลาจากช่องฟรีทีวีอื่นๆด้วย โดยจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง “ช่องสปริงนิวส์ยังต้องมีข่าวและสาระในสัดส่วน 30% กลุ่มสปริงนิวส์เดิมจึงยังต้องผลิตรายการข่าวให้เรา เพราะทีวีไดเร็คไม่มีความชำนาญเรื่องข่าว”

นายทรงพลยังกล่าวว่า การเข้าถือหุ้นฟรีทีวีครั้งนี้ จะไม่ใช่เป็นการเพิ่มภาระทางการเงิน เพราะใช้เงินหมุนเวียนและไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากทีวีไดเร็คลงทุนด้านการผลิตรายการไว้อยู่แล้ว และจะใช้ทีมงานผลิต-อุปกรณ์ที่มีอยู่ ซึ่งปัจจุบันเช่าเวลาของสปริงนิวส์ทั้งสิ้น 18 ชม.ต่อวันผลิตรายการเอง ภายใต้ทีมงานเพียง 45 คน ส่วนวัตถุประสงค์ในการซื้อครั้งนี้ หลักๆเพื่อต้องการต่อยอดธุรกิจ และนำไปสู่การทำวิดีโอ มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งทีวีไดเร็คจะทำงานร่วมกับยูทูบ (YouTube)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีวีไดเร็คจะเป็นช่องดิจิทัลทีวีรายแรกที่ประกอบกิจการ TV Shopping สมบูรณ์แบบ โดยไม่ได้กระทบกับใบอนุญาตกิจการทีวีดิจิทัลช่องข่าว ที่ กสทช.กำหนดไว้ว่าช่องข่าว จะต้องมีรายการข่าวและสาระไม่น้อยกว่า 30% ส่วนรูปแบบการชำระเงินในการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้นั้น ทีวีไดเร็คไม่ต้องไประดมทุนหรือเพิ่มทุนเพื่อมาซื้อหุ้น เพราะได้สิทธิผ่อนจ่ายเป็นเวลาถึง 124 เดือน ทั้งนี้ ทีวีไดเร็คได้เข้ามาจับมือกับสปริงนิวส์ตั้งแต่ต้นปี 61 โดยเซ็นสัญญาเป็นผู้ร่วมผลิตรายการเป็นเวลา 4 ปี โดยจ่ายค่าเช่าเวลาเดือนละ 7,000,000 บาท ก่อนจะขยับมาเป็นการซื้อหุ้นและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ดังกล่าว ทั้งนี้ ปี 60 สปริงนิวส์มีรายได้ 200.13 ล้านบาท ขาดทุน 19.28 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกปี 61 มีรายได้ 124.16 ล้านบาท กำไร 17.60 ล้านบาท มีสินทรัพย์ทั้งหมด 1,510.55 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ