นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญมาก ทำให้ ปตท.ต้องเร่งปรับรูปแบบการทำงาน เพื่อให้ก้าวไปในทิศทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์ยุคปัจจุบัน ที่จะต้องให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและดิจิทัล โดยในเดือน พ.ย.นี้จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท.ให้พิจารณาอนุมัติงบประมาณในการดำเนินโครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมและดิจิทัล ทั้งนี้จะกำหนดไว้ในแผน 5 ปี โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2562
“เป็นครั้งแรกที่ ปตท.จะปรับรูปแบบการทำงานให้มีความทันสมัย โดยการนำแนวคิดและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนาองค์กร ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตออฟติงส์ (ไอโอที)”
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ในเร็วๆนี้ ตนในฐานะที่จะขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.คนใหม่ จะได้แสดงวิสัยทัศน์ การทำงานและนโยบายการบริหารองค์กรต่อบอร์ด ปตท. ก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ยังยืนยันว่า ปตท.จะต้องมีการดำเนินงานที่ก้าวไปข้างหน้า เดินหน้าสู่
การเป็นองค์กรต้นแบบที่ส่งเสริมการทำงานแบบดิจิทัลเวิร์คเพลส
นอกจากนี้ กรณีที่บอร์ด ปตท. ได้มีการอนุมัติให้บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (ประเทศไทย) เข้าไปซื้อซองประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) ถือว่าเป็นการขยายการลงทุนในประเทศไทย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในเดือน พ.ย. นี้ ก่อนที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะเปิดรับซองเอกสารเสนอราคา