ประเมินผลกระทบสงครามค้า

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ประเมินผลกระทบสงครามค้า

Date Time: 26 มิ.ย. 2561 08:45 น.

Summary

  • พาณิชย์ถกภาครัฐ–เอกชนวันนี้ (26 มิ.ย.) ประเมินผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน และวางแผนรับมือ พร้อมเตรียมข้อมูลแจง “ยูเอสทีอาร์” ขอยกเว้นเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก–อะลูมิเนียมไทยอีกรอบ

Latest

อัปเดต 5 กลยุทธ์ขายของ พิชิตใจคน Gen Z อยากรักษ์โลก แต่ของมันต้องมี แบรนด์รับมืออย่างไร?

“พาณิชย์” ถกรัฐ-เอกชนรับมือภัยคุกคาม

พาณิชย์ถกภาครัฐ–เอกชนวันนี้ (26 มิ.ย.) ประเมินผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน และวางแผนรับมือ พร้อมเตรียมข้อมูลแจง “ยูเอสทีอาร์” ขอยกเว้นเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก–อะลูมิเนียมไทยอีกรอบ หลัง “ทรัมป์” เมินยกเว้นให้ ส่วนเปิดตลาดหมูยันยัง ไม่นำเข้า รอศึกษาผลกระทบต่อผู้บริโภคก่อน ลั่น 8 เดือนรู้ผล

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 26 มิ.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อ ประเมินสถานการณ์ และสอบถามผลกระทบที่ภาคเอกชนจะได้รับจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เกิดขึ้นขณะนี้ พร้อมเตรียมวางแผนรับมือ รวมถึงกรณีที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทั่วโลก รวมถึงไทย นอกจากนี้ ยังจะเตรียมข้อมูลเพื่อนำไปชี้แจงสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) ในระหว่างที่ตนเดินทางเยือนสหรัฐฯกลางเดือน ก.ค.นี้

“เป็นการรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไร ไทยคงไม่ได้รับผลกระทบทางตรง เพราะไม่ใช่เป้าหมายหลักที่สหรัฐฯต้องการแก้ไขปัญหาทางการค้า แต่ไทยจะได้รับผลกระทบทางอ้อม เพราะสินค้าไทยอยู่ในห่วงโซ่การผลิตทั้งของจีนและสหรัฐฯ”

ส่วนการเดินทางไปเยือนสหรัฐฯในช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ จะถือโอกาสย้ำกับยูเอสทีอาร์ว่าไทยทำการค้ากับสหรัฐฯอย่างตรงไปตรงมา และยุติธรรม ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ที่สำคัญ ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์กันมายาวนานถึง 200 ปี มีสนธิสัญญาไมตรี ที่ให้สิทธิ์นักลงทุนทั้ง 2 ชาติเสมือนคนในชาติ นอกจากนี้ จะขอให้สหรัฐฯยกเว้นเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากไทย ตามมาตรา 232 กฎหมาย Trade Expansion Act ปี 1962 จากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ยกเว้นรายประเทศให้กับไทยไปแล้ว

ขณะเดียวกัน จะชี้แจงประเด็นที่สหรัฐฯเร่งรัดให้ไทยเปิดตลาดเนื้อหมูและเครื่องใน ที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยง และการที่ยูเอสทีอาร์อยู่ระหว่างพิจารณาข้อร้องเรียนสภาผู้ผลิตสุกรแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ขอให้ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้าไทย เพราะไทยไม่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์ โดยไม่เปิดตลาดให้สหรัฐฯอย่างเป็นธรรมและสมเหตุสมผล เนื่องจากไม่เปิดตลาดเนื้อหมู โดยจะชี้แจงว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยอยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนไทย หากบริโภคหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง ขณะที่ สหรัฐฯก็ต้องศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนอเมริกันเช่นกัน

“ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ระหว่างศึกษาว่าการบริโภคหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงจะกระทบต่อร่างกายหรือไม่ อย่างไร ต้องมีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ให้สหรัฐฯ เห็น ซึ่งต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน นับจากที่ได้หารือเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการค้า และการลงทุนไทย-สหรัฐฯ (ทิฟา) ที่สหรัฐฯ เมื่อเดือน เม.ย.61 หากผลพิสูจน์ของไทยออกมาว่าคนไทยกินหมูมีสารเร่งเนื้อแดงแล้วไม่เกิดอันตราย ก็จะพิจารณาเปิดตลาดให้ แต่ขณะนี้ยังเปิดตลาดไม่ได้ เพราะไทยมีกฎหมายห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงปศุสัตว์ และห้ามตกค้างในอาหารโดยเด็ดขาด”

ด้านนายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงว่าสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนจะ กระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทย ในเบื้องต้นประเมินว่าไทยจะได้รับผลบวกมากกว่าผลลบ และไทยควรใช้โอกาสนี้เร่งส่งออก เพื่อสนับสนุนการส่งออกปีนี้ขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ