ปี 61 ซีพีเอฟ โกยรายได้ไตรมาสแรก 1.2 แสนล้าน กำไรสุทธิ 3,049 ล้าน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ปี 61 ซีพีเอฟ โกยรายได้ไตรมาสแรก 1.2 แสนล้าน กำไรสุทธิ 3,049 ล้าน

Date Time: 15 พ.ค. 2561 23:10 น.

Video

เปิดเคล็ดลับ ลดหย่อนภาษี ถือสั้น กำไรพุ่ง ต้องซื้อกองทุนฯ แบบไหน ? | Money Issue

Summary

  • ซีพีเอฟแจงไตรมาส 1 รายได้ 1.2 แสนล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 3,049 ล้านบาท ผลกระทบจากราคาเนื้อสัตว์ลดลงและอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่ในระดับที่แข็งตัว ...

Latest


ซีพีเอฟแจงไตรมาส 1 รายได้ 1.2 แสนล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 3,049 ล้านบาท ผลกระทบจากราคาเนื้อสัตว์ลดลงและอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่ในระดับที่แข็งตัว ...

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หรือ ซีพีเอฟ เผยรายได้จากการขายไตรมาสที่ 1 ปี 2561 จำนวน 120,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิจำนวน 3,049 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 23 จากผลกระทบจากราคาเนื้อสัตว์ที่ลดต่ำลงและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่อยู่ในระดับที่แข็งตัวกว่าระยะเวลาเดียวกันที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากระดับราคาเนื้อสุกรในประเทศเวียดนาม และประเทศไทยที่ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน ทำให้มั่นใจผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ รายได้จากการขายของซีพีเอฟ เกิดจากกิจการในต่างประเทศจำนวน 15 ประเทศคิดเป็นร้อยละ 66 รายได้จากกิจการในประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 29 และรายได้จาการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 5 ของรายได้จากการขายรวม โดยรายได้จากการขายรวมจาก 3 ประเทศหลัก คือ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศเวียดนาม คิดเป็นประมาณร้อยละ 73

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ กล่าวถึงปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของซีพีเอฟ ว่า ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟได้ร้บผลกระทบหลักจากราคาขายเนื้อสุกรที่ลดต่ำลงในประเทศเวียดนามและประเทศไทย ที่เป็นผลจากภาวะผลผลิตล้นตลาด โดยในเวียดนาม ราคาเนื้อสุกรเริ่มลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่าต้นทุนการผลิตตั้งแต่ปลายปี 2559 มาจนถึงไตรมาสที่ 1 ปีนี้

สำหรับประเทศไทยราคาเนื้อสุกรเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2560 ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 1 ซึ่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมาราคาเนื้อสุกรในทั้ง 2 ประเทศเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเหนือต้นทุนการผลิต คาดว่าราคาน่าจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 2, 3 และ 4 เป็นลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทโดยภาพรวมดีขึ้นเป็นลำดับ

ทั้งนี้ ในวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ประจำปี 2561 ในระดับ A+ โดยอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของบริษัทยังคงสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทย ตลอดจนการมีฐานการผลิตในหลายประเทศ การมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย กลยุทธ์ที่เน้นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่มีตราสัญลักษณ์ รวมทั้งความยืดหยุ่นทางการเงินจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ