ตราฉัตร ชี้ราคาข้าวถุงพุ่ง 20% ยาวถึง ส.ค.61 นี้ เหตุพายุเซินกาทำผลผลิตหอมมะลิหายไปกว่า 40 % อิหร่านหันซื้อบริโภค ดันราคาส่งออกแตะ 1,200 ดอลลาร์ต่อตัน...
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2561 นายฐิติ ลุจินตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด หรือ ข้าวตราฉัตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาข้าวถุงหอมมะลิใหม่ในประเทศขนาด 5 กิโลกรัม(กก.)มีราคาสูงถึง 250 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20 % จากช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยวปลายปีที่ผ่านมาถุงละ 210 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณข้าวหอมมะลิปีการเพาะปลูก 2559/60 ออกสู่ตลาดน้อยกว่าที่คาดไว้ ตามการรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ระบุว่าลดลงประมาณ 8-9 %
ทั้งนี้จากการสอบถามโรงสีระบุว่าปริมาณข้าวหอมมะลิลดลง 20 % จากผลผลิตปกติ 8-9 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ผู้ประกอบการในพื้นที่บางรายระบุว่าปรับลดลง 40 % เนื่องจากพายุเซินกาสร้างความเสียหายพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูก ในภาคอีสาน ซึ่งเกษตรกรไม่สามารถปลูกซ่อมแซมได้ทันเพราะเลยช่วงแสงที่จะทำให้ข้าวหอมมะลิติดรวง
“ขณะนี้อิหร่านที่กินข้าวบาสมาติ ก็หันกลับมากินหอมมะลิของไทย เพราะข้าวบาสมาติราคาสูงมาก และมีส่วนต่างด้านราคาถึง 100 ดอลลาร์ ทำให้ความต้องการข้าวหอมมะลิในตลาดต่างประเทศยังมีต่อเนื่องแม้ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น ถึงตันละ 1,200 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นจากต้นฤดูกาลผลิตที่ขายได้ตันละ 900 ดอลลาร์ เนื่องจากเป็นข้าวคุณภาพที่ขายตลาดบนอยู่แล้วทำให้ไม่มีปัญหาในการเสนอขาย อีกทั้งไทยไม่มีปัญหาเรื่องสต็อกข้าว และรัฐบาลยังขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี กับ อินโดนีเซีย บังคลาเทศ ศรีลังกา และฟิลิปปินส์ ได้อีกจึงดันราคาข้าวไทยให้สูงขึ้นได้ในขณะนี้” รอง กก.ผจก.บริหาร บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด
ปัจจุบันราคาข้าวในประเทศ ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 17,000 บาท สูงกว่าต้นฤดูการผลิตที่มีราคาตันละ 11,000 บาท ซึ่งช่วยดันราคาข้าวขาว 5% เพิ่มขึ้นเป็นตันละ 8,000 บาท จากปกติ 6,500-7,000 บาทต่อตัน ทั้งนี้คาดว่าราคาข้าวหอมมะลิจะปรับตัวสูงขึ้นจนถึงเดือน ก.ค.- ส.ค.61 หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะชะลอการสั่งซื้อเพื่อรอข้าวในฤดูกาลใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในเดือนช่วง พ.ย.- ธ.ค.61 ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มราคาในปีการผลิตใหม่ได้ โดยต้องรอดูพื้นที่เพาะปลูกที่คาดว่าเกษตรกรจะเริ่มเตรียมแปลงในเดือน พ.ค.นี้เป็นต้นไป แต่จากราคาข้าวหอมมะลิที่ปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าวจะส่งผลให้ชาวนาขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้น แทนการปลูกข้าวเหนียวที่ราคาปีนี้ไม่ดีนัก หากมีการปลูกมากและผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในปี 2560/61 ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะปรับลดลง ทั้งนี้ ต้องพิจารณาปัจจัยลบอื่นๆ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้
สำหรับในส่วนของข้าวตรา ในปี 61 ทางบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายข้าวทั้งในและต่างประเทศ 1 ล้านตัน และคาดว่ามูลค่าส่งออกข้าวทั้งในและต่างประเทศทั้งปีจะโตไม่ต่ำกว่า 15% มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท ส่วนข้าวถุงคาดว่าจะขายได้ที่ 10 ล้านถุง เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา