นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 1 (ปี 60-64) ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยที่จะผลักดันให้มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 2.5 ล้านล้านบาท เป็น 5 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี สำหรับแผนดังกล่าว ได้กำหนด 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.เสริมสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ 2.เสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำอี-คอมเมิร์ซ และอำนวยความสะดวกทางการค้าสู่สากล 3.เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพปัจจัยสนับสนุน และ 4.สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อและผู้ขาย
“ในส่วนของกรมฯ ในการเพิ่มมูลค่าการค้า จะร่วมกับบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ให้ค้าขายผ่านอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท TMALL Global ภายใต้บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด ในไตรมาสแรกปี 61 เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเจาะตลาดอี-คอมเมิร์ซในจีน ซึ่งมีมูลค่าการค้าอันดับหนึ่งของโลกได้”
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก เช่น Amazon, eBay รวมถึง GoSoko ในแอฟริกา, Coupang ในเกาหลีใต้ และ Souq.com ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผลักดันให้สินค้าและบริการไทยไปปรากฏอยู่บนตลาดกลางเหล่านี้ โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจสูง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สปา เสื้อผ้า เครื่องประดับ อาหารสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยว ขณะเดียวกัน จะพัฒนาระบบเว็บไซต์ Thaitrade.com โดยเพิ่มผู้ประกอบการให้ขายสินค้า ในเว็บไซต์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอี จากปัจจุบันที่มีสมาชิกผู้ขาย 22,754 ราย และสมาชิกผู้ซื้อจากทั่วโลก 159,614 ราย มีสินค้าและบริการกว่า 255,849 รายการ และสร้างมูลค่าการค้าได้แล้ว 4,556 ล้านบาท.