สมาคมยาสูบฯ-ร้านค้า เกาะติดราคาบุหรี่ หลังเริ่มภาษีเข้ากองทุนคนชรา 26 ม.ค.นี้ ห่วงกักตุนสินค้าอีกระลอก แนะรัฐหาทางป้องกันการกักตุนเพื่อเก็งกำไร หวั่นตลาดป่วน ซ้ำเติมร้านค้ารายย่อยต้องแบกภาระ...
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2561 นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวถึงกรณีที่การจัดเก็บภาษีกองทุนผู้สูงอายุจากสินค้าสุราและยาสูบในอัตรา 2% ของภาษีสรรพสามิต จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 ม.ค.2561 นี้ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกเริ่มตื่นตัวและเฝ้าระวังสถานการณ์ เพราะมีความกังวลจะมีการปรับขึ้นราคาเหล้าบุหรี่เหมือนเมื่อเดือน ก.ย.2560 เช่นเดียวกับสมาคมฯ ที่ได้ติดตามความคืบหน้ามาตรการภาษีต่างๆ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสินค้ายาสูบมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดทางร้านค้าสมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งมีอยู่ราวกว่า 1,000 ราย ได้เริ่มสอบทางกันมาแล้วว่าจะมีการปรับขึ้นราคาบุหรี่อีกหรือไม่
“จากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 เมื่อ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ร้านค้าฯ บริหารจัดการสต็อกกันอย่างลำบาก เนื่องจากราคาบุหรี่แต่ละเจ้าต่างปรับราคากันหลายระลอกในช่วงแรก แต่ตอนนี้สภาพตลาดค่อนข้างกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว สำหรับภาษีบาปที่จะจัดเก็บเข้ากองทุนคนชราฯ ร้านค้าก็จับตาว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับราคาบุหรี่อีกรอบหรือไม่ เพราะต้องการวางแผนเรื่องสินค้าในร้านต่อไป” ผอ.บริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าว
เมื่อถามถึงสถานการณ์ตลาดบุหรี่ทั่วไปในขณะนี้ นางวราภรณ์ กล่าวว่า แม้ตลาดจะเริ่มนิ่ง หลังเข้าสู่เดือนที่ 3 หลังการขึ้นภาษีสรรพสามิต แต่ก็ยังมีความอ่อนไหว ท่ามกลางข่าวต่างๆ โดยเฉพาะผู้ผลิตบุหรี่ไทยที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐหามาตรการช่วยเหลือ เพราะได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีทำให้ยอดขายลดลงนั้น ผู้ค้าก็จับตาเฝ้าระวังมาตรการใดๆ ที่จะมากระทบกับราคาขายปลีกอีกระลอก โดยเฉพาะหากบุหรี่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้น บริษัทบุหรี่ย่อมผลักภาระต่อมาที่ราคาขายปลีกอยู่แล้ว บรรดาข่าวต่างๆ เรื่องภาษีบุหรี่ที่ออกมาอย่างต่อเนื่องนั้น ก็อาจทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์กันไปต่างๆ นานาว่า จะปรับราคาขึ้นหรือลงอีกหรือไม่ เกรงว่าจะเกิดการเก็งกำไร และกักตุนสินค้ากันอีก แม้ว่าภาระภาษีที่เพิ่มขึ้นอาจจะไม่มากนัก
ผอ.บริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวด้วยว่า ไม่อยากให้การออกมาตรการใหม่ๆ มาแก้ปัญหาภาษีบุหรี่ ไม่อยากให้กลายมาเป็นสร้างภาระให้ร้านค้าคนหาเช้ากินค่ำ ร้านค้าเล็กๆ ส่วนใหญ่ขายบุหรี่ได้เพียงวันละ 5-10 ซอง ถ้าตลาดต้องเจอความผันผวนอีกระลอก นอกจากจะขายของกันลำบากแล้วยังเปิดโอกาสให้มีการกักตุนหรือเก็งกำไรกันอีกด้วย.