นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า กบง.ได้มีมติไม่ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือน ต.ค.นี้ เพื่อลดภาระรายจ่ายของประชาชน แม้ว่าราคาตลาดโลกจะดีดตัวขึ้นไปที่ระดับ 577 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา 87 เหรียญฯ ซึ่งทำให้ราคาแอลพีจีคงราคาเดิมที่ 21.15 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และ กบง.ให้นำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยให้ประชาชนในอัตรา 3.02 บาทต่อ กก. ที่จากเดิมชดเชยที่ 3.57 บาทต่อ กก. เป็นชดเชยที่อัตรา6.59 บาทต่อ กก.
“การรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกแอลพีจีครั้งนี้ ได้ส่งผลให้กองทุนน้ำมันต้องรับภาระชดเชยราคา โดยมีรายจ่ายสุทธิสูงถึง 913 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากแนวโน้มสถานการณ์ราคาตลาดโลกยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาระการชดเชยราคาของกองทุนน้ำมันก็จะเพิ่มมากขึ้น จึงอาจต้องมีการพิจารณาถึงสถานะของกองทุนน้ำมันฯ รวมถึงแนวทางการปรับราคาแอลพีจีให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป”.