วิจัยพบผู้ก่อตั้ง 'สตาร์ทอัพ' ชั้นนำของไทยไม่จำเป็นต้องจบบริหารธุรกิจ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

วิจัยพบผู้ก่อตั้ง 'สตาร์ทอัพ' ชั้นนำของไทยไม่จำเป็นต้องจบบริหารธุรกิจ

Date Time: 28 ก.ค. 2560 08:30 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • iPrice เผยผลวิจัยพบ ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพแนวหน้าของไทย ที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาทางด้านธุรกิจ

Latest


iPrice เผยผลวิจัยพบ ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพแนวหน้าของไทย ที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาทางด้านธุรกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท iPrice เป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จและทำตลาดใน 7 ประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมมือกับบริษัท DMP ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุน เห็นถึงความเชื่อที่ว่าถ้าหากจะประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจก็ต้องมีความรู้ทางด้านธุรกิจหรือเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อที่ว่า ต้องจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับประเทศหรือระดับโลก หรืออาจจะต้องจบการศึกษาทางด้านธุรกิจและควรจบจากรั้วชมพูขาวหรือเหลืองแดงเท่านั้น ความคิดนี้ยังคงถูกฝังอยู่ในความเชื่อของชาวไทยหลายๆ คน

ขณะเดียวกัน จึงได้ศึกษาประวัติการศึกษาของเหล่าผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จและพบผลการศึกษาดังต่อไปนี้ จากการศึกษาสตาร์ทอัพ 33 บริษัทในประเทศไทย และผู้ก่อตั้งจำนวน 66 คน (ข้อมูลการศึกษามีเพียง 50 คน)

ทั้งนี้ พบว่าผู้ก่อตั้งชาวไทย 15 คนจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (5 คนจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์), 6 คนจากการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 4 คนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 3 คนจากการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ 2 คนจากการศึกษาจาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

นอกจากผู้ก่อตั้งชาวไทยแล้ว ประเทศไทยยังมีผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพชาวต่างชาติที่เข้ามาสร้างบริษัทสตาร์ทอัพกว่า 19 คน ซึ่งมาจากหลายประเทศทั่วโลกและจบจากมหาวิทยาลัยและสาขาวิชาที่ต่างกัน

หากจำแนกตามสาขาวิชาที่เหล่าผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพจบการศึกษา 7 คนจบการศึกษาจากสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์, 9 คนจบการศึกษาจากสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและการจัดการ, 13 คนจบการศึกษาจากสาขาวิชาวิศวกรรม, 14 คนจบการศึกษาจากสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ และ 6 คนที่จบการศึกษาจากสาขาวิชาอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม จากความเชื่อข้างต้นแล้ว คนไทยบางกลุ่มเชื่อว่าการศึกษาในระดับที่สูงขึ้นไป (ปริญญาโทและ MBA) นั้นจะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและที่สำคัญสามารถนำความรู้ที่ได้เรียนมา มาต่อยอดสำหรับธุรกิจต่อไป

จากการศึกษาพบว่ามีผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ 21 คนที่เข้าศึกษาในระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทยนั้นสามารถนำการศึกษาในชั้นปริญญาตรีมาปรับใช้ให้ธุรกิจของพวกเขาประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่ปรากฏในการศึกษาครั้งนี้ไม่ใช่เครื่องการันตีความสำเร็จแต่อย่างใด ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นใคร จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยใด หรือจบการศึกษาจากคณะสาขาวิชาอะไร ทุกคนล้วนแต่สามารถประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจได้ไม่ต่างกัน

ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่นำวิชาความรู้ที่พวกเขาได้ร่ำเรียนมามาปรับใช้และเปิดเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ต่อผู้บริโภคในอุตสาหกรรมที่พวกเขาสนใจ คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ว่าจะเรียนจบสาขาอะไร ก็สามารถนำความรู้มาต่อยอดเป็นธุรกิจได้ทั้งนั้น เพียงแต่ต้องมองหาโอกาสทางธุรกิจหรือพยายามแก้ปัญหาของผู้บริโภคที่ยังไม่มีธุรกิจใดเข้ามาตอบโจทย์  


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์