Salesforce (เซลส์ฟอร์ซ) ผู้พัฒนาระบบ CRM ได้เปิดตัวรายงาน State of Sales รวมผลการสำรวจจากประเทศไทย นำเสนอข้อมูลจากตัวแทนผู้ประกอบอาชีพด้านการขายหรือพนักงานขาย (Sales) กว่า 5,500 ราย จากบริษัทใน 27 ประเทศทั่วโลก โดยมีข้อมูลจากพนักงานขายในประเทศไทยจำนวน 200 ราย
รายงาน State of Sales ได้ชี้ให้เห็นว่า ทีมงานด้านการขายกำลังหาจุดสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาประยุกต์ใช้ และการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตและความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
รายงานของ Salesforce ได้ชี้ให้เห็นถึงประเด็นสำคัญดังนี้
- ความคาดหวังของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดความท้าทายด้านการขาย โดยความท้าทายนี้เป็นประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจพบทั่วโลกพบ อีกทั้งการหาโอกาสพบปะพูดคุยกับลูกค้านั้นเป็นเรื่องยากมากขึ้น จากข้อมูลจะพบว่า
- ผู้ประกอบอาชีพด้านการขายในประเทศไทยใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 30% ของเวลาการทำงานทั้งหมดในรอบสัปดาห์ เพื่อติดต่อกับลูกค้า
- 64% ของพนักงานขายในประเทศไทยระบุว่า ความคาดหวังของลูกค้าในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหากเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีพนักงานขายเพียง 16% เท่านั้นที่มองในทิศตรงกันข้ามว่าความท้าทายในปีนี้ลดน้อยลง
การนำ AI มาใช้งานได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องความไว้วางใจและช่องว่างด้านข้อมูล การนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในธุรกิจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากทีมงานต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและปรับปรุงการให้บริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งาน ในด้านความปลอดภัย การเชื่อมโยงระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และความไม่ไว้วางใจจากลูกค้า ดังนั้น แม้เทคโนโลยี AI จะมีศักยภาพสูงสำหรับการดำเนินธุรกิจ แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ- จากการสำรวจพบว่า 77% ของทีมงานด้านการขายในประเทศไทยได้นำระบบ AI มาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบหรือกำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งาน และยังมีทีมอีกพนักงานขายอีก 14% ที่อยู่ระหว่างการประเมินเทคโนโลยี AI เพื่อนำมาใช้ในการทำงาน
ผลสำรวจพบว่าประโยชน์สำคัญที่สุดของการนำ AI มาใช้สำหรับทีมงานด้านการขายในประเทศไทย คือด้านการเพิ่มคุณภาพและความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้ในการทำงาน (Data quality and Accuracy)ความกังวลต่อความปลอดภัยของข้อมูล เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทีมงานด้านการขายในประเทศไทยพบในระหว่างการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งานข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้พนักงานขายยังไม่สามารถใช้ AI ในการทำงานอย่างได้เต็มประสิทธิภาพ โดยมีพนักงานทั่วโลกเพียง 35% เท่านั้นที่เชื่อมั่นในความถูกต้องของข้อมูลที่ตนเองมีอยู่ผู้ประกอบอาชีพด้านการขายในประเทศไทยระบุว่า กระบวนการขายที่ประสบปัญหาจากการขาดข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายและโควตาการขายที่สามารถบรรลุได้ (40%) การขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบัญชีลูกค้า (37%) และการขาดข้อมูลเพื่อการแข่งขันที่เพียงพอ (35%)
การรักษาบุคลากรให้ทำงานอยู่กับองค์กรได้กลายเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในระดับสากล ในขณะที่ตลาดแรงงานมีความตึงตัว ส่งผลให้พนักงานขายส่วนใหญ่ยังคงทำงานอยู่กับองค์กรเดิม - จากการศึกษาพบว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานด้านการขายทั่วโลกนั้นมีอัตราการหมุนเวียนพนักงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 18% ซึ่งลดลงจาก 25% จากการสำรวจในปี 2565 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรนั้นมีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค
สำหรับประเทศไทย ในช่วงปีที่ผ่านมาอัตราการลาออกของพนักงานด้านการขายมีค่าเฉลี่ยสูงถึงประมาณ 20%6% ของผู้ประกอบอาชีพด้านการขายในประเทศไทยกำลังมองหางานใหม่ธิติรัตน์ ทองถาวร ผู้จัดการประจำ Salesforce ประเทศไทย กล่าวว่า “ความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ทำให้ผู้ประกอบอาชีพด้านการขายในประเทศไทยจำเป็นต้องทุ่มเทเวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า เทคโนโลยี AI มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่พวกเขา โดยช่วยประหยัดเวลาในการทำงานประจำ ทำให้มีเวลาว่างมากขึ้นสำหรับการสร้างความสัมพันธ์และเข้าถึงลูกค้า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้ในทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทต้องแก้ไขจุดบกพร่องพื้นฐานที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของ AI ด้วยการรวบรวมข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้บนแพลตฟอร์มเดียวที่เชื่อถือได้ และบูรณาการ AI เข้าไปในกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด”