มิตรภาพไทย-จีน ยั่งยืน ถอดวิธีคิด "แบบจีน" ดร.ซิวซี แซ่ตั้ง

Business & Marketing

Leadership & Culture

ไทยรัฐออนไลน์

Author

ไทยรัฐออนไลน์

Tag

มิตรภาพไทย-จีน ยั่งยืน ถอดวิธีคิด "แบบจีน" ดร.ซิวซี แซ่ตั้ง

Date Time: 2 ต.ค. 2566 18:00 น.
ไทยรัฐออนไลน์

Summary

  • มิตรภาพไทย-จีน ยั่งยืน ถอดวิธีคิด "แบบจีน" ดร.ซิวซี แซ่ตั้ง "ดื่มน้ำจากบ่ออย่าลืมคิดถึงคนขุดบ่อ-เมื่อรับจากสังคมให้คืนสู่สังคม"

ดร.ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) กล่าวอวยพร เนื่องในการเฉลิมฉลองวันชาติจีน ว่า ด้วยความปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชนชาวจีนทุกคนไม่ว่าอยู่ที่ไหนของโลก ขอให้ประเทศก้าวหน้าและประชาชนรุ่งเรือง และผมมีความปรารถนาขอให้มิตรภาพระหว่างไทย-จีน ยั่งยืนตลอดไป

ดร.ภวัฒน์ ในฐานะคนจีนรุ่น 2 ที่สืบทอดต่อยอดธุรกิจจากรุ่นพ่อ ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย สร้างเนื้อสร้างตัวจนเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ในไทย และขยายธุรกิจออกไปทั่วโลก ได้ถอดแนวคิดวิธีคิดแบบจีน ในการทำการค้าการลงทุนให้เราฟังว่า หลักในการทำงานทำธุรกิจการค้าการลงทุน ของตระกูลเราจะยึดคำสั่งสอนและแบบอย่างของ คุณพ่อ ดร.ซิวซี แซ่ตั้ง ประธานกิตติมศักดิ์และผู้ก่อตั้ง กลุ่มบริษัท EPG มาเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจ และดำเนินชีวิต

โดย ดร.ภวัฒน์ ได้เริ่มฉายภาพว่า คุณพ่อของผมตอนนี้อายุ 98 ปีแล้ว เมื่อท่านอายุได้ 20 ปี ได้ขึ้นเรือสินค้าออกจากเมืองจีนด้วยสมบัติติดตัวเพียงเสื่อผืนหมอนใบ มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารมาอยู่ประเทศไทยด้วยความยากลำบาก มาถึงก็ทำงานทุกอย่าง หนักเอาเบาสู้ ทำทุกอาชีพที่มีโอกาสเข้ามา ตั้งแต่เดินเร่ขายรองเท้า รับจ้างทำงานทุกชนิด เป็นคนงานในโรงฟอกหนัง จนได้เป็นเจ้าของโรงฟอกหนัง โรงงานทำประตูหน้าต่าง ฯลฯ พ่อทำงานด้วยความขยันขันแข็ง อดทน ซึ่งความ "ขยันและอดทน" นี้ ถือเป็นดีเอ็นเอ ของคนจีนอยู่แล้ว นอกจากนี้คุณพ่อยังมีความโดดเด่นเรื่องความซื่อสัตย์ คุณพ่อเคยขาดทุนจากการลงทุนที่ผิดพลาดและมีหนี้สิน แม้เจ้าหนี้จะยอมยกหนี้ให้แล้ว แต่เมื่อพลิกฟื้นกลับมาตั้งตัวได้ คุณพ่อได้นำเงินกลับไปคืนหนี้ให้เจ้าหนี้ทุกราย!!

และสำคัญคือ แม้คุณพ่อจะไม่ได้เรียนหนังสือ แต่มีความพยายามใฝ่หาความรู้และเรียนรู้ในสิ่งที่ทำตลอดเวลา จนทำให้ธุรกิจของพ่อประสบความสำเร็จ เมื่อมีครอบครัวคุณพ่อจึงให้ความสำคัญกับการศึกษาของลูกๆ ทุกคน ส่งเสริมให้ลูกได้เรียนสูงๆ จนจบปริญญาโท ปริญญาเอก และกลับมาช่วยพ่อต่อยอดขยายธุรกิจจนเติบโต

ทำให้ปัจจุบันครอบครัวเราเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) ซึ่งเป็น Holding Company ที่ลงทุนในธุรกิจแปรรูปพลาสติกที่มีนวัตกรรมที่สร้างความแตกต่าง เช่น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉนวนยางกันความร้อน/เย็น, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งยานยนต์, ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติก, ธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ และธุรกิจเพื่อการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมูลค่าหลักทรัพย์ราว 20,000 ล้านบาท โดย EPG ถือเป็นบริษัทของคนไทย ที่ส่งสินค้าออกไปขายทั่วโลก โดยขยายธุรกิจออกไปลงทุนตั้งโรงงานอยู่ในทุกทวีปทั่วโลกทั้ง เอเชีย จีน อินเดีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา และแอฟริกา

พ่อจะสอนลูกๆ อยู่เสมอว่า "ดื่มน้ำจากบ่ออย่าลืมคิดถึงคนขุดบ่อ" โดยให้สำนึกในบุญคุณคนที่ช่วยเหลือและให้โอกาสเรา และในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ พ่อจะย้ำว่า เราต้องมีคุณธรรม "เมื่อรับจากสังคมให้คืนสู่สังคม" เมื่อมีรายได้มีกำไรจากลูกค้า คู่ค้า ต้องนำกำไรคืนสู่สังคม

ดังนั้น รุ่นลูกรุ่นหลาน จึงนำคำสอนของพ่อ มาเป็นหลักปรัชญาของกลุ่มธุรกิจ EPG คือ “รับจากสังคม คืนสู่สังคม” (Get from social community and return contribution to community) โดยมีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตบนพื้นฐานของธรรมาภิบาล และการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมทั้งคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อมุ่งให้ธุรกิจอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างเป็นสุข และพัฒนายกระดับความเจริญก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน

คุณพ่อยังมีความสำนึกในบุญคุณแผ่นดิน ทั้งแผ่นดินจีนที่เป็นแผ่นดินเกิดที่ให้ชีวิต และแผ่นดินไทยที่ให้ที่อาศัยพักพิง ให้โอกาส ให้การเติบใหญ่ คุณพ่อจึงมีโครงการช่วยเหลือสังคมและชุมชนมากมายมาโดยตลอดทั้งในประเทศไทยและจีน โดยล่าสุด ครอบครัวเราเพิ่งนำเงินไปบริจาคให้มูลนิธิรามาธิบดี 100 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนสร้างอาคารกายวิภาคโรงพยาบาลจักรีนฤบดินทร์ ที่จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา เราบริจาคเงินให้ โรงพยาบาล 40 แห่งในไทย รวมทั้งการผลิตหน้ากากและทำเตียงสนาม เพื่อช่วยเหลือคนไทยในยามเกิดโรคระบาด

ส่วนจีนแผ่นดินเกิดนั้น เมื่อคุณพ่อตั้งตัวได้ และพอมีเงินทอง คุณพ่อ ได้กลับไปช่วยเหลือบ้านเกิดที่ตนเองจากมา โดยได้กลับไปช่วยพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งสร้างระบบไฟฟ้าและประปา สร้างถนนเข้าหมู่บ้าน สร้างโรงพยาบาลที่สมัยนั้นยังขาดแคลน และสร้างโรงเรียนเป็น 10 แห่ง ซึ่งพ่อเกิดที่หมู่บ้านในอำเภอฮงซุน มณฑลกว่างตง เขตซัวเถา

"ทำให้หลายปีที่ผ่านมา ในวันชาติจีน คุณพ่อจะได้รับเชิญจากหน่วยงานรัฐบาลจีน ให้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองงานวันชาติจีนที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลที่กรุงปักกิ่ง ในฐานะที่เป็นบุคคลโพ้นทะเลตัวอย่าง ที่ประสบความสำเร็จแล้วกลับมาช่วยเหลือประเทศ"

"ดร.ภวัฒน์" ยังกล่าวว่า ด้วยการให้ความสำคัญในการศึกษาของคุณพ่อ นอกจากรุ่นลูกหลานจะได้รับการศึกษาที่สูง จนมาช่วยต่อยอดขยายกิจการให้ EPG แล้ว ยังส่งผลให้กลุ่ม EPG ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ จนนำมาสู่การ ชูเป็น Vision ของบริษัท คือการมุ่งสู่ องค์กรแห่งนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ หรือ CREATIVE INNOVATION ORGANIZATION ทำให้ EPG เป็นองค์กรที่เติบโตขึ้นมาด้วยนวัตกรรม โดยนำเทคโนโลยีต่างๆ มาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์แล้วพัฒนาให้เกิดเป็นสินค้าใหม่ที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อสังคมและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมความรู้พนักงานโดยเปิดโอกาสให้เขาได้ศึกษาพัฒนาความรู้ทักษะเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ จนทำให้ปัจจุบัน EPG เป็นเจ้าของสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรจากประเทศต่างๆ ทั้งจีน สหรัฐฯ ยุโรป รวมทั้งไทยมากกว่า 740 ฉบับ

"หลักการคำสอนของคุณพ่อ แม้จะเป็นคนจีนยุคเก่า แต่กลับสามารถนำมาใช้ได้อย่างดีในการทำธุรกิจการค้าการลงทุนสมัยใหม่ ที่กลับมาให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืน โดยยึดหลักการ ESG คือการคำนึงถึงประโยชน์ของทุกภาคส่วนทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม และการมีบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อยึดถือปฏิบัติ สั่งสอนและเป็นแบบอย่างให้ลูกหลานได้ปฏิบัติตามมา จนทำให้กลุ่มธุรกิจของครอบครัวเราเจริญก้าวหน้าเติบโตได้อย่างยั่งยืนในปัจจุบันและต่อไปในอนาคต” ดร.ภวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย


Author

ไทยรัฐออนไลน์

ไทยรัฐออนไลน์