Webull บุกเมืองไทย เปิดเทรดหุ้นสหรัฐฯ เรียลไทม์ ย้ำภาพ Dowjones ตลาดหุ้นของโลก

Business & Marketing

Executive Interviews

ไชยรัตน์  ศรีสุข (อาร์ม)

ไชยรัตน์ ศรีสุข (อาร์ม)

Tag

Webull บุกเมืองไทย เปิดเทรดหุ้นสหรัฐฯ เรียลไทม์ ย้ำภาพ Dowjones ตลาดหุ้นของโลก

Date Time: 30 มิ.ย. 2567 07:30 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • Webull โบรกเกอร์ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดให้บริการในไทย เพื่อเทรดใน Dowjones โดยเฉพาะ มองโอกาสการซื้อขายในตลาดหุ้นหลักของโลก พร้อมกางแผนเปิดให้บริการเทรดหุ้นไทยในอนาคต

Latest


เมื่อพูดถึงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใครๆ ก็มักจะได้ยินชื่อหุ้น 7 นางฟ้า ที่ราคาขึ้นอย่างมากแจกกำไรกับผู้ถือหุ้นมหาศาล เม็ดเงินทั่วโลกพากันหลั่งไหลไปลงทุนในสหรัฐฯ จำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนไทยที่หนีความย่ำแย่อันดับต้นๆ ของโลกไปหาโอกาสทำกำไรที่น่าจะดีกว่า 


แม้การลงทุนหุ้นต่างประเทศอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ด้วยกลุ่มคนที่ลงทุนยังมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับหุ้นไทย แต่ล่าสุดโบรกเกอร์ชื่อดังในสหรัฐฯ อย่าง บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ เลือกที่จะเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทย และประกาศแผนที่จะเปิดให้ซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว


เมื่อผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาทำให้เกิดคำถามว่า การที่ บล.วีบูลล์ เลือกมาเปิดสาขาในเมืองไทย จำนวนนักลงทุนไทยที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศมีมากพอที่จะคุ้มค่าการทำธุรกิจแล้วหรือไม่ และแผนการทำธุรกิจในเมืองไทยนั้นเป็นอย่างไร เราจะร่วมกับหาคำตอบ 


ชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ (ประเทศไทย) จํากัด เปิดเผยกับ Thairath Money ว่า นักลงทุนไทยสนใจลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เปรียบเหมือนตลาดหุ้นของโลก  ทำให้มีปริมาณนักลงทุนที่มากพอที่เราจะเข้ามาทำการตลาดในเมืองไทย 


“นักลงทุนไทยสนใจเทรดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากตลาดหุ้นไทยที่เพอร์ฟอร์ม สวนทางกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เปรียบเหมือนตลาดหุ้นของโลกที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ตลาดหุ้นที่นักลงทุนให้ความนิยมคือ สหรัฐฯ เพราะเป็นประเทศที่มีมหาอำนาจของโลก โดยประเทศสหรัฐอเมริกามีขนาดเศรษฐกิจ หรือทั้งที่ GDP คิดเป็นสัดส่วน 20% ของทั้งโลก แต่เมื่อหันมาดูที่มูลค่ามาร์เก็ตแคปของหุ้นสหรัฐฯ มีสัดส่วน 45% ของมาร์เก็ตแคปของตลาดหุ้นทั่วโลก 


ซึ่งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่มีฐานลูกค้าทั่วโลก ไม่ได้มีฐานรายได้แค่ในสหรัฐฯ ในกลุ่ม 7 นางฟ้า เช่น Apple, Meta, Tesla, Netflix ที่ผู้คนใช้กันทั่วโลก ในเมืองไทยก็เช่นกัน ผู้คนใช้มือถือไอโฟน ใช้ Facebook ดู Netflix


ด้วยขนาดของตลาดหุ้นที่มีสัดส่วนไม่ธรรมดา และฐานรายได้จากทั่วโลก ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปรียบเหมือบกันตลาดหุ้นของโลก 

เปิดสาขาในไทย เพื่อเทรดหุ้นสหรัฐฯ


บล.วีบูลล์ หนึ่งในผู้ให้บริการการซื้อขายหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาเห็นโอกาสและการเติบโตในเมืองไทย และเห็นการเติบโตของการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ทำให้เลือกที่จะมาขยายฐานในประเทศไทย ซึ่งความนิยมในคนไทยในหุ้นต่างประเทศมีมายาวนาน เห็นได้จากองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ หรือ FIF มีมูลค่ากองทุนสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท 

“ก่อนหน้านี้ วีบูลล์ ให้บริการในหลายประเทศ แคนาดา แม็กซิโก บราซิล อังกฤษ แอฟริกาใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ซึ่งเราเห็นโอกาสในไทยที่มีการเติบโตสูง จึงเลือกเป็นอีกหนึ่งประเทศที่จะให้บริการซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ” CEO วีบูลล์ กล่าว 


ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยถูกเลือก มีอยู่ 3 ข้อหลักๆ คือ 1.ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ดี 2.ตลาดหุ้นไทยมีการพัฒนาและอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก 3.คนไทยเข้าถึงโซเชียลมีเดียอันดับต้นๆ ของโลก 


โดยการเปิดธุรกิจในไทย ให้บริการ 3 ด้าน คือ 

  1. ซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ
  2. เปิดซื้อขาย ETF ทั่วโลก 
  3. ออปชันเพื่อให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย  

ชลเดช กล่าวว่า จุดเด่นของ บล.วีบูลล์ ที่จะเอาชนะผู้เล่นรายอื่น คือ เราเป็น โบรกเกอร์จากสหรัฐฯ โดยตรงที่เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ ภายใต้ใบอนุญาตของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. โดยให้บริการซื้อขายแบบราคาเรียลไทม์รายแรกของไทยในไทย และด้วยการที่เราเป็นโบรกเกอร์จากสหรัฐฯ ทำให้เราสามารถจัดงานสัมมนา หรือการให้ข้อมูลโดยตรงจากต่างประเทศได้ 


สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญในเมืองไทย คือ ผู้ที่ลงทุนในต่างประเทศโดยตรง และมีประสบการณ์การลงทุนมาแล้ว ไม่ได้โฟกัสที่ขนาดของเม็ดเงินหรือใหญ่ ซึ่งเรามีแพลตฟอร์มที่เป็นระดับมืออาชีพให้กับนักลงทุนที่เป็นเทรดเดอร์ชาวไทย พร้อมจะเทรดต่างประเทศ 


ซึ่งในช่วงแรกแม้เราจะยังไม่ได้ทำการโปรโมต ก็มีนักลงทุนไทยที่ใช้บริการแอปพลิเคชันของ วีบูลล์ อยู่แล้วก็ให้การตอบรับทันที และสร้างการกระแสให้กับบล.ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คจำนวนมาก ซึ่งเราจะเน้นในการสร้างความรู้จักหุ้นในต่างประเทศทั้งในด้านข้อมูลปัจจัยพื้นฐานกับนักลงทุนไทย โดยเราวางเป้าหมายภายใน 2-3 ปี อยากได้บัญชีแอคทีฟอยู่ 2-3 แสนบัญชี  


เก็บภาษีใหม่เป็นอุปสรรค


อย่างไรก็ตาม ชลเดช ยอมรับว่านโยบายการเก็บภาษีเงินลงทุนต่างประเทศนั้นมีผลกระทบกับ บล.วีบูลล์ ที่เข้ามาด้วย จากลูกค้าจะต้องเสียภาษีซึ่งอาจจะไม่เท่าเทียมกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในไทย ทั้ง DR ฟีดเดอร์ฟันด์ ที่ได้รับการยกเว้นภาษี 


ทั้งนี้ เราได้เสนอ ก.ล.ต. และ กระทรวงการคลัง อยากให้มีบัญชีเงินฝากเพื่อการลงทุนส่วนบุคคล บังคับให้คนให้ลงทุนระยะยาว ห้ามถอนก่อน 10 ปี ซึ่งบัญชีประเภทนี้มีในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จอย่างมาก และช่วยส่งเสริมการออมได้ ซึ่งเราพร้อมจะผลักดันในเรื่องนี้ 


กางแผนเปิดเทรดหุ้นไทย 


แม้ปัจจุบันจะมีการให้บริการเฉพาะการซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ แต่ในอนาคต วีบูลล์ มีแผนที่จะเข้ามาเปิดการซื้อขายตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน โดยในอุตสาหกรรมโบรกเกอร์ไทย มีทิศทางที่ซันเซ็ต มีรายได้และกำไรลดลง โบรกเกอร์ขาดทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งเรามองว่า อุตสาหกรรมโบรกเกอร์ไทยต้องปรับตัว มีเจ้าหน้าที่การตลาดจำนวนมาก มีค่าใช้จ่ายประจำที่สูง ทำให้มี Pe ต่ำ เราอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านจากคนมาเป็นระบบนานแล้ว แต่อุตสาหกรรมไทยยังไม่ยอมเปลี่ยน.

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่