คุยกับ “เทรเชอริสต์” ผ่าปัญหาคนไทยไม่มีเงินเก็บ “ทำงาน กู้ จ่ายหนี้” จุดเริ่มต้น “ค่าแรง” ไม่พอกิน

Business & Marketing

Executive Interviews

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

คุยกับ “เทรเชอริสต์” ผ่าปัญหาคนไทยไม่มีเงินเก็บ “ทำงาน กู้ จ่ายหนี้” จุดเริ่มต้น “ค่าแรง” ไม่พอกิน

Date Time: 6 เม.ย. 2567 07:00 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • “Thairath Money” ชวนไปคุยกับกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์เทรเชอริสต์ (Treasurist) ผู้ช่วยสร้าง “ความมั่งคั่ง” ให้คนไทย พร้อมโจทย์ใหญ่ต้องแก้ ทำไมคนไทยไม่มีเงินเก็บ

“การลงทุนเป็นเรื่องของคนรวย” อาจเป็นความคิดหนึ่งของใครหลายๆ คน ที่กำลังเผชิญความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูง และค่าแรงขั้นต่ำที่แสนถูก ทำให้หลายคนไม่มีเงินออม หรืออาจหนักไปถึงขั้นลามเป็นปัญหาหนี้สิน ส่วนบางคนที่พอมีเงินเก็บบ้าง ก็ต่างมองหาช่องทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเร้าใจ แต่นั่นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง และอาจไม่สามารถทำให้เกิดความมั่งคั่งที่ยั่งยืนได้


“Thairath Money” จะพาไปรู้จักกับหนึ่งในธุรกิจที่จะเป็นตัวช่วยสร้าง “ความมั่งคั่ง” ของคนไทยให้เติบโต นั่นคือ กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์เทรเชอริสต์ (Treasurist) ที่จะเป็นผู้ช่วยแนะนำแผนลงทุน และจัดสรรสัดส่วนกองทุนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุนแต่ละคน ผ่านเทคโนโลยีและระบบซื้อขายกองทุนรวมออนไลน์

โจทย์ใหญ่ต้องแก้…คนไทยไม่มีเงินลงทุน


ศกุนพัฒน์ จิรวุฒิตานันท์, CISA กรรมการบริหาร ผู้ก่อตั้ง และ Group CEO กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์เทรเชอริสต์ (Treasurist) เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ปัจจุบันภาพรวมคนไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหากับหนี้สินอยู่ แม้จำนวนเม็ดเงินในระบบอาจคิดเป็นสัดส่วนไม่สูง จะเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นำเสนอการแก้ไขปัญหาหนี้สินมาโดยตลอด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญอันดับแรกที่สะท้อนว่าคนไทยมีเงินไม่พอใช้ หรือรายได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย 


หลายปีที่ผ่านมา ที่อยู่อาศัยราคาสูงขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ ดังนั้น โจทย์ใหญ่ คือ ทำอย่างไรให้เปลี่ยนจากประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นหนี้ กลายมาเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่เหลือเก็บและสามารถมีออมเงินได้ ซึ่งหากมีเงินออมแล้ว เชื่อว่าอีกส่วนหนึ่งที่เหลือจะกลายเป็นเงินลงทุนได้


“คนส่วนใหญ่ทำงาน กู้ แล้วก็จ่ายดอกเบี้ยวนไป ถ้าไม่มีเหลือออมก็โตไม่ได้ในเชิงการเงิน ซึ่งผมว่ามันน่าเสียดาย เราเข้าใจเขาและอยากเข้าไปช่วยในแบบที่มันยั่งยืน ซึ่งเทรเชอริสต์ อยากทำให้ทุกคนสามารถมีเงินออม ลงทุนเป็น และฐานะเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ศกุนพัฒน์ กล่าว


คนรุ่นใหม่อยาก “รวยเร็ว” แม้ต้องเสี่ยงสูง


ศกุนพัฒน์ กล่าวอีกว่า คนที่มีเงินเหลือออม หรือ “Net Saver” ในประเทศไทยนั้น แม้จะมีจำนวนมากขึ้น แต่ยังไม่ถือว่าเป็นสัดส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับคนทั้งประเทศ โดยคนที่เริ่มลงทุนส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่ยังมีเงินไม่มากนัก และมักต้องการ “รวยเร็ว” ซึ่งคนกลุ่มนี้มักเปิดรับวิธีการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ทำให้ในภาพรวมการลงทุนจึงมีความคาดหวังผลตอบแทนที่สูงระดับ 10-20% ต่อปี แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงสูงด้วย เช่น การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี


จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างจากวิธีการลงทุนของคนรุ่นก่อนหน้า ที่มีเงินออมเยอะขึ้นมา ซึ่งมักลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า เช่น ตลาดหุ้น หุ้นกู้ที่มีหลักประกันแต่ไม่มีเครดิตเรตติ้ง หรือหุ้นกู้บริษัทใหญ่ที่มีเครดิตเรตติ้งดี ให้ผลตอบแทนราว 3-7% ตามลำดับ


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนที่เหลือออมและเริ่มจัดสรรเงินได้มีจำนวนมากขึ้น และมักมองหาช่องทางในการลงทุนเพิ่มเติม หลังจากลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ซึ่งถือเป็น “ภาคบังคับ” จากภาครัฐ โดยส่วนใหญ่จะเลือกลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก สะท้อนจากตัวเลขเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

หุ้นเทคฯ น่าสน คาดพุ่งต่อรับดอกเบี้ยขาลง


ศกุนพัฒน์ เผยว่า ภาพรวมการลงทุนปี 2567 นี้คาดว่าจะดีขึ้น หลังทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าจะลดลง ประกอบกับความไม่สงบในตะวันออกกลางยังไม่ทวีความรุนแรง ขณะที่สหรัฐอเมริกาจะมีเลือกตั้งในช่วงปลายปี คาดว่าจะเริ่มเห็นเม็ดเงินอัดฉีดเศรษฐกิจในระยะถัดไป


ดังนั้น ทำให้มองว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างประเทศ จะมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากสามารถคาดหวังการเติบโตในอนาคตได้มากระดับ 100-200% ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายขาลง จะเป็นปัจจัยหนุนให้อัตราคิดลด (Discount Rate) ลดลง ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก


ทั้งนี้ พบว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10% (double digit) ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ NASDAQ ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei และดัชนีตลาดหุ้นอินเดีย SENSEX ก็อยู่ในโซนการทำสถิติใหม่สูงสุดเช่นกัน (New high) ซึ่งสะท้อนว่าผู้ที่ลงทุนในตลาดนั้นๆ ก็จะมีความมั่งคั่งขึ้นตามไปด้วย


“คำว่า New High ผมชอบมากเลยนะ มันเป็นตัวที่บอกว่าคนที่ลงทุนในตลาดนั้นรวยขึ้นสู่พรหมแดนที่ไม่เคยรวยขนาดนี้มาก่อน ผมว่ามันเจ๋ง ประเทศที่มันสามารถทำให้คนรวยขึ้นในแบบที่ไม่เคยรวยแบบนี้มาก่อน” ศกุนพัฒน์ กล่าว


ตลาดหุ้นไทยไม่เอื้อ…แนะโอกาสลงทุนต่างประเทศ


ศกุนพัฒน์ ชี้ว่า ดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องนั้น มองว่าเป็นโอกาสที่นักลงทุนไทยจะเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อหาผลตอบแทน ซึ่งหากย้อนกลับมาที่ตลาดหุ้นบ้านเรา จะพบว่าปัจจัยต่างๆ ไม่เอื้อต่อการลงทุน จึงสะท้อนออกมาที่ภาพรวมของดัชนีที่ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ ในเชิงการลงทุนนักลงทุนต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไร


“ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คุณจะไปลงทุนกับเขาไหมนี่คือโจทย์ อันนี้คุณรักเมืองไทย แต่มันไม่ขึ้นคุณจะ Join กับที่นี่ไหมในเชิงการลงทุนก็เรื่องของคุณเหมือนกัน แต่อะไรไม่ดีเราก็บอก อะไรดีเราก็แนะนำ” ศกุนพัฒน์ กล่าว


อย่างไรก็ตาม เทรเชอริสต์ มีจุดแข็งคือ ความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินของคนอื่นให้ได้ผลตอบแทนดี ในระดับความเสี่ยงที่รับได้ จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา โดยมีความคิดที่จะหาช่องทางเพื่อช่วยให้คนไทยมีฐานะการเงินที่ดีขึ้น ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์โลก ภาวะหนี้สิน และค่าแรงขั้นต่ำที่เข้ามากดดันภาพรวมการลงทุน จากการให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายกองทุนรวม คำแนะนำการลงทุนที่ใช้อัลกอริทึมประมวลผลข้อมูลเพื่อเลือกกองทุนที่โดดเด่น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์