ดอกเบี้ยนโยบาย เครื่องมือสำคัญของการดำเนินนโยบายการเงิน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้สำหรับการดูแลภาพรวมเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพการเงิน ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า “แบงก์ชาติ” ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องและอยู่ในระดับสูง สร้างภาระให้ลูกหนี้ทั้งรายย่อยและผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ส่งผลให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 2 ของปี 2567 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 เมษายนนี้ ก็จะเป็นอีกครั้งที่หลายฝ่ายจับตามอง
อลิศรา มหาสันทนะ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และรองประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ไทยรัฐ มันนี่” พูดถึงทิศทางนโยบายดอกเบี้ย ปัจจัยพิจารณา และแรงกดดันจากภาคส่วนต่างๆ กับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ว่า ในแถลงผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่ผ่านมาทุกครั้ง จะบอกภาพชัดเจนว่า สิ่งที่ กนง.ดูในการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงิน จะมี 3 เรื่อง ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจการเงิน อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพการเงิน
พร้อมกับอธิบายว่า ในเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 จากตัวเลขเดือนกว่าๆ เกือบ 2 เดือน เห็นว่าเศรษฐกิจยังซอฟต์อยู่ แต่ดูจะมีบางเรื่องมีแนวโน้มดีขึ้น เช่น ด้านการท่องเที่ยวทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคภายในประเทศ (consumption) ดีมาตลอดต่อเนื่องจากปี 2566 และเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ และตอนนี้ก็ยังเห็นตัวนี้มีการขยายตัวดี
อย่างไรก็ตาม ตัวหลักที่ฉุดเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 ต่อเนื่องถึงปีนี้ ยังคงเป็นเรื่องการใช้จ่ายภาครัฐที่งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2567 ยังไม่ผ่านสภาฯ จึงทำให้ในไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ (ต.ค.-ธ.ค.2566) ในแง่ภาคการคลังทั้งการใช้จ่ายรัฐบาลและการลงทุนของรัฐบาลชะลอลงไป
ส่วนการส่งออก ต้องติดตามดูอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากปีที่ผ่านมาส่งออกติดลบ และการส่งออกของไทยมีทั้งปัจจัยเชิงวัฏจักร จากสถานการณ์ของประเทศคู่ค้าที่ยังไม่ฟื้นตัว จึงทำให้เศรษฐกิจของเรายังไม่ได้ประโยชน์จากการส่งออกมากนัก ทำให้ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ปีนี้ก็ยังไม่เห็นการฟื้นตัวของการส่งออกที่ชัดเจน
อีกด้านของเรื่องการส่งออกคือปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ประเทศไทยอาจมีความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศลดน้อยถอยลงไปหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านอิเล็กทรอนิกส์ ที่เราผลิตสินค้าไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดโลกมากนัก หรือสินค้าที่เป็น High Technology ก็ไม่ใช่ตัวที่เราส่งออกมาก ในขณะที่สินค้าที่ไทยผลิตกันมากๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ความต้องการก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวชัดเจน เป็นต้น
เรื่องส่งออกจึงยังคงต้องตามดู ส่วนภาพรวมทั้งปีจะเป็นอย่างไร รองประธาน กนง.มองภาพทั้งปียังคงฟื้นตัวได้ และน่าจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2567 นี้อยู่ในช่วง 2.5-3.0% และยังประเมินว่าค่อนไปทางด้านล่างมากกว่าด้านบน
ส่วนเรื่องเงินเฟ้อในฐานะที่นโยบายการเงินของไทยมีกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นกรอบในการดำเนินนโยบาย รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท.ในฐานะรองประธาน กนง. กล่าวว่า ในระยะนี้ยังคาดว่า เงินเฟ้อจะยังติดลบต่อไปถึงเดือน มี.ค.-เม.ย. และคาดว่าจะกลับมาเป็นบวกในเดือน พ.ค. จากปัจจัยของฐาน
"เงินเฟ้อเป็นประเด็นในเรื่องของปัจจัยชั่วคราว เป็นปัจจัยจากเรื่องราคาอาหารที่ต่ำ และมาตรการของรัฐบาลที่เข้ามาอุดหนุนราคาพลังงานและราคาค่าไฟที่ทำให้เงินเฟ้อลดลงมา และหากมองไปข้างหน้า ปัจจัยเหล่านี้จะค่อยๆ หมดไป ประกอบกับเศรษฐกิจเริ่มขยายตัว เงินเฟ้อก็จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นและกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย แม้เฉลี่ยทั้งปี อาจจะยังไม่เข้าสู่กรอบเป้าหมาย
"อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อคงไม่ใช่ประเด็น และไม่ใช่ภาวะเงินฝืดด้วย เพราะเงินฝืดจะต้องหมายถึงเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเศรษฐกิจข้างหน้าเราก็คาดว่าจะขยายตัวได้ หรือการใช้จ่ายของผู้บริโภคหดตัว อันนี้เราก็ยังไม่ได้เห็นภาพนั้น ฉะนั้นเรื่องเงินเฟ้อจึงเป็นปัจจัยชั่วคราว” อลิศรา กล่าว
ส่วนเสถียรภาพการเงิน เป็นอีกปัจจัยที่ กนง.ติดตามเพื่อนำไปสู่การพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงิน อลิศรา กล่าวว่า เสถียรภาพการเงินยังคงเป็นมุมมองที่ กนง.ให้น้ำหนัก และเป็นประเด็นระยะยาว เพราะถ้าสังเกตแถลงผลการประชุม กนง.ครั้งที่ผ่านมา (ก.พ. 2567) จะมีพูดถึงเรื่องกระบวนการปรับลดหนี้ หรือ Deleveraging (การลดหนี้ในระบบ) ซึ่งยังอยากให้กระบวนการนี้เดินต่อไป
เพราะเรื่องของภาระหนี้ภาคครัวเรือน หนี้ของภาคธุรกิจที่สูงขึ้นมาค่อนข้างมาก เป็นปัจจัยสำคัญและมีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพในระยะต่อไป ถ้าหนี้สูงๆ ก็เป็นตัว Drag Growth ลงมาได้ในระยะยาว และในภาพรวม ก็อาจเป็นปัญหาต่อเสถียรภาพการเงินในระยะยาวได้
“เราก็มองว่าตัว Deleveraging น่าจะต้องดำเนินต่อไป ตอนนี้มันเป็นลักษณะที่ไปช้าๆ ซึ่งก็ไม่อยากให้สะดุด ถ้าดอกเบี้ยปรับเปลี่ยนไป อาจทำให้กระบวนการตัวนี้สะดุดลงได้”
“โดยรวมแล้วก็คือต้องชั่งน้ำหนัก คณะกรรมการนโยบายการเงินต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการประเมินภาพเศรษฐกิจ แล้วก็การปรับเปลี่ยนนโยบายที่จะมีผลกระทบต่อด้านเสถียรภาพการเงิน ในเรื่องกระบวนการ Deleveraging ของหนี้ของภาคเศรษฐกิจไทย”
อย่างไรก็ตาม รองประธาน กนง.กล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้จะต้องมีการประเมินภาพและมองไปข้างหน้า และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งในมุมมองของคณะกรรมการนโยบายการเงินเอง ถ้ากลับไปดูแถลงผลการประชุมฯ ที่ผ่านมา ก็จะเห็นชัดเจน แนวนโยบายของ กนง.คือ ถ้ามีแนวโน้มเศรษฐกิจการเงิน หรือเสถียรภาพการเงินเปลี่ยนไป ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน (ดอกเบี้ย) ให้เหมาะสม
พร้อมกับชี้อีกประเด็นว่า ตอนนี้นโยบายของ กนง.คืออยากให้นโยบายการเงินเป็น “Neutaul” คือ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวตามศักยภาพ เงินเฟ้ออยู่ในกรอบและไม่สร้างความเสี่ยงทางด้านเสถียรภาพการเงิน
“ถ้าปัจจัยแวดล้อมแนวโน้มทางเศรษฐกิจการเงินหรือว่าเสถียรภาพการเงินเปลี่ยนไป คณะกรรมการนโยบายการเงินก็พร้อมที่จะปรับให้สอดคล้องกับตัวทิศทางเ พื่อให้นโยบายการเงินเป็นไปอย่าง Neutral” อลิศรา กล่าว
ส่วนประเด็นที่แบงก์ชาติถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดตั้งแต่ต้นปี และแรงกดดันจากภาคการเมืองเรื่อง “ลดดอกเบี้ย” อลิศรา กล่าวว่า แรงกดดันทางการเมืองที่พูดกัน กนง.มองว่า เป็นการแสดงข้อคิดเห็น ซึ่งอาจเป็นมุมมองที่แตกต่างออกไป แต่เป็นมุมมองที่มาจากภาคส่วนต่างๆ ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินเช่นกัน
อีกทั้ง นโยบายของ กนง.ไม่ได้มองเพียงตัวเลขเศรษฐกิจ แต่ได้ออกไปพูดคุยกับผู้ประกอบการไม่ว่ารายเล็กรายใหญ่ผ่านเจ้าหน้าที่ ธปท.ในโครงการ Business Liaison คุยกับทุกเซคเตอร์ เพื่อให้ได้ข้อมูลจริงจากผู้ประกอบการเข้ามาประกอบการประเมินภาพเศรษฐกิจกับตัวเลขเศรษฐกิจ ดังนั้นมุมมองที่มาจากภาคส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ นักวิชาการ ที่พูดถึงแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.ก็เป็น input ที่สำคัญที่นำมาพิจารณาด้วย
“เครื่องมือที่เรามี และผลกระทบของเครื่องมือที่เรามี คือดอกเบี้ย มีผลกระทบต่อภาพและปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ แตกต่างกัน จึงเอาเข้ามาชั่งน้ำหนักรวมกัน เราไม่สามารถใช้ดอกเบี้ยที่เป็นเครื่องมือที่มีผลกระทบกว้างไปแก้ปัญหาบางจุดได้ เพราะฉะนั้นเครื่องมือเป็นเครื่องมือสำคัญ ถ้าเป็นปัญหาบางจุด เราอาจต้องใช้เครื่องมือเฉพาะจุดจัดการ ไม่สามารถใช้เครื่องมือที่เป็นเครื่องมือที่มีผลกระทบอย่างกว้างขวางได้” อลิศรา กล่าว
ติดตามข่าวสารอัปเดต เศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ล่าสุด ได้ที่นี่
ข่าวเศรษฐกิจ : https://www.thairath.co.th/money/economics
เศรษฐกิจในประเทศ : https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
เศรษฐกิจโลก : https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney