คนที่คิดเป็นจะไม่ตกงาน ซีอีโอ Microsoft มองมนุษย์จะกำกับ AI ไม่ใช่ถูกแทนที่ แค่ต้องปรับวิธีทำงาน

Business & Marketing

Corporates & Leadership

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คนที่คิดเป็นจะไม่ตกงาน ซีอีโอ Microsoft มองมนุษย์จะกำกับ AI ไม่ใช่ถูกแทนที่ แค่ต้องปรับวิธีทำงาน

Date Time: 25 ก.พ. 2568 11:47 น.

Video

วิเคราะห์อนาคต Google เจ้าแห่งเสิร์ชเอนจิน จะอยู่ยังไง ถ้าไม่ได้ผูกขาด | Digital Frontiers

Summary

  • AI กำลังเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน โดยเฉพาะงานที่ใช้ความรู้และทักษะทางปัญญา แม้งานสำหรับมนุษย์อาจถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรในอนาคต แต่ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft เชื่อว่า AI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่กลับเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมศักยภาพในการทำงาน และมนุษย์ยังคงเป็นผู้ควบคุมการเปลี่ยนแปลง

Latest


AI กำลังกลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานทั่วโลก โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความรู้และทักษะทางปัญญา แม้ว่าหลายคนกังวลว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่มนุษย์อย่างสิ้นเชิง แต่ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft มองต่างออกไป เขาเชื่อว่า AI จะไม่ลบล้างงานเหล่านี้ แต่จะเข้ามาปรับเปลี่ยนบทบาทและวิธีการทำงานของมนุษย์ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

ใจความในบทสัมภาษณ์ “Microsoft’s AGI Plan & Quantum Breakthrough” จากรายการ YouTuber ชื่อ Dwarkesh Patel เจาะลึกตั้งแต่เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนา AGI (Artificial General Intelligence) ไปจนถึงอนาคตการทำงานของมนุษย์ โดยเขากล่าวว่า เมื่อพูดถึงงานทั้งหมด สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือ การสร้างรูปแบบและกระบวนการทำงานแบบใหม่ แต่สำหรับผมแล้ว การทำงานรูปแบบใหม่ คือ การใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของการคิดและทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานของผม 

Nadella ไม่ได้ปฏิเสธความจริงที่ว่า AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการทำงานที่เคยเป็นหน้าที่เฉพาะของมนุษย์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า งานด้านความรู้จะหายไป เพียงแต่จะถูกพัฒนาไปในรูปแบบใหม่

เมื่อบริษัทเทคโนโลยียังคงลงทุนใน AI และเร่งพัฒนาโมเดลและแอปพลิเคชันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้งานบางประเภทอาจได้รับผลกระทบหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน เช่น การใช้พีซี อีเมล หรือสเปรดชีต

Nadella กล่าวเสริมว่า เมื่อก่อนเรามักจะใช้แฟกซ์ในการส่งข้อมูล จากนั้นก็จะมีคนรวบรวมแฟกซ์เหล่านั้น นำมาจัดทำบันทึกภายในก่อนส่งต่อไปยังแผนกต่าง ๆ และผู้คนก็จะป้อนตัวเลขลงในระบบจนได้ข้อมูลการคาดการณ์ ซึ่งมักจะเสร็จทันเวลาสำหรับไตรมาสถัดไป ต่อมาผู้คนสามารถแนบสเปรดชีต Excel ในอีเมล และส่งต่อกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่นได้ทำทำให้แฟกซ์ถูกแทนที่ไปโดยสิ้นเชิง และรูปแบบการทำงานที่เคยต้องพึ่งพาแฟกซ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก 

ดังนั้น การคาดการณ์ทางธุรกิจก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามเครื่องมือและรูปแบบการทำงานใหม่ๆ และสิ่งเดียวกันนี้กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อ AI ถูกนำมาใช้ในงานด้าน Knowledge Work

แม้จะไม่มีนิยามที่ชัดเจนของ “Knowledge Work” งานด้านความรู้ แต่โดยทั่วไปหมายถึงงานที่ต้องใช้การคิดเชิงวิพากษ์เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งโดยปกติอาจต้องพึ่งแรงงานที่เน้นใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์สูง “Cognitive Labor” ในการจัดการ 

Knowledge Work ในปัจจุบันอาจถูกทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ โดยสิ่งที่เราคิดว่าเป็นงานเฉพาะสำหรับมนุษย์ในวันนี้ อาจกลายเป็นงานของเครื่องจักรในอนาคต งานที่ใช้ความรู้เฉพาะด้านหลายยอย่างจะถูกแทนที่ด้วยระบบ AI Agent เช่นเดียวกับเครื่องคิดเลขและคอมพิวเตอร์ที่ทำให้การคิดเลขของมนุษย์ง่ายขึ้น เราไม่ต้องนับและคำนวณด้วยมืออีกต่อไป 

อย่างไรก็ตามเขายังคงเชื่อว่า AI ยังคงต้องการผู้ดูแล ซึ่งจะเป็นบทบาทของ Cognitive Labor หรือมนุษย์ที่มีทักษะสูงขึ้นไปอีกในอนาคตนั่นเอง แต่เราจะยังต้องการแรงงานที่มีความรู้ คอยกำกับและจัดการงานทั้งหมด นี่คือจุดเชื่อมต่อสำคัญที่เราต้องพัฒนาให้เกิดขึ้น เพราะ AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในหลายๆ ด้าน

โดยสุดท้ายเขากล่าวทิ้งท้ายในบทสัมภาษณ์ว่าบทบาทของมนุษย์ในฐานะแรงงานที่มีความรู้จะยังคงมีความสำคัญในการกำกับและจัดการงานเหล่านั้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในอนาคต AI จะเป็นเครื่องมือที่เสริมศักยภาพการทำงานของมนุษย์ เพื่อให้สามารถพัฒนางานและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ