เส้นทางธุรกิจ "อนุกูล ใจตรง" ซื่อสัตย์-รับผิดชอบ

Business & Marketing

Corporates

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เส้นทางธุรกิจ "อนุกูล ใจตรง" ซื่อสัตย์-รับผิดชอบ

Date Time: 19 ต.ค. 2567 05:01 น.

Summary

  • “คุณนุ-อนุกูล ใจตรง” เผย ความขยันขวนขวายดิ้นรนเพื่อให้ได้เรียนหนังสือ เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อมีโอกาสมีกิจการของตัวเอง ผมยึดหลักและบอกลูกน้องทุกคนว่าเราต้องซื่อสัตย์และรับผิดชอบงานลูกค้าให้ดีที่สุด เพราะลูกค้าถือเป็นผู้มีพระคุณ นี่คือ Business on my way ของผม

Latest

สรุปมุมมอง Bernard Arnault จากเวที Forbes Global CEO จุดยืน LVMH เครือแบรนด์หรูระดับโลก

เพราะต้องอยู่กับความลำบาก ที่ต้องทำงานช่วยครอบครัวเตี่ยและแม่ที่เป็นชาวไร่ ทำไร่ยาสูบตั้งแต่จำความได้ “คุณนุ-อนุกูล ใจตรง” จึงคิดมาตลอดว่าหากจะหลุดพ้นจากความยากลำบาก ต้องเรียนสูงๆ แม้พี่น้อง 11 คน จะจบการศึกษาสูงสุดเพียงประถม 6 ที่โรงเรียนในจังหวัดกาญจนบุรี และยังคงมีอาชีพทำไร่ สืบทอดภารกิจต่อจากพ่อแม่จนทุกวันนี้

ยกเว้นตัวเขา ที่ตอนนี้กำลังเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และเป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการรับเหมาตีเส้นจราจร และขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการจราจร ที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนใหญ่ๆมากมาย

กว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ “นุ” บอกกับเราว่ามันเกินกว่าที่ฝันไว้มาก!!

เพราะต้องเรียนให้สูง เมื่อจบประถม 6 และเตี่ยมาเสียชีวิต แม่ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ ทำให้เขาตัดสินใจเดินออกจากครอบครัว มาทำงานโรงงานในกรุงเทพฯแบบต้องหลบๆซ่อนๆ เพราะอายุยังไม่ถึงวัยทำงาน ทำอยู่ได้ไม่เท่าไร มีคนแนะนำให้ไปทำงานเป็น “ช่างทอง” ที่สุพรรณบุรี กับ “เถ้าแก่” ที่ใจดีมีเมตตาและเอ็นดูเขามาก ที่สำคัญยังชวนให้ไปเรียน กศน.ด้วยกัน จนจบ ม.3 พร้อมกัน แต่ “เถ้าแก่” ไม่เรียนต่อ ขณะที่เขายังอยากเรียน และด้วยงานช่างทองสมัยนั้น ต้องทำตั้งแต่ 08.00-24.00 น. ทำให้กินเวลางาน เขาจึงตัดสินใจลาออก ทั้งที่ยัง

ไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อ....

“ผมรักเถ้าแก่มาก แต่ต้องตัดใจ ไม่อยากเอาเปรียบเขา แต่ใจยังรักเรียน ตอนนั้นผมอายุ 15-16 ปี ไม่รู้จะไปไหน เดินร้องไห้ คิดว่าจะไปตั้งหลักที่วัดป่าเลไลยก์ก่อน แต่เจอผู้ชายคนนึงขับรถมา เห็นผมเดินร้องไห้ คงสงสารเรียกผมขึ้นรถ ถามที่มาที่ไป และพาผมไปสมัครงานโรงแรมในสุพรรณฯ ปรากฏว่าเจ้าของโรงแรมรู้จัก “เถ้าแก่ช่างทอง” เขาโทร.หากัน “เถ้าแก่” จึงฝากฝังผมกับเจ้าของโรงแรม”

ผมสมัครเป็นคนสวน ขอหยุดวันอาทิตย์เพื่อไปเรียน กศน. เจ้าของโรงแรมใจดีมาก เขาเห็นหน่วยก้านผมไม่เหมาะเป็นคนสวน จึงให้ไปเป็นเด็กเสิร์ฟ พอผ่านงาน ก็ให้ขึ้นมาเป็น Bell boy จนเรียนจบ ม.6 เพื่อนที่เรียนด้วยกัน ชวนเปิดร้านขายซีดีที่ชัยนาท แต่ไม่ work!! จึงกลับไปทำงานร้านกาแฟที่โลตัสสุพรรณ จนได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของร้าน ให้ไปเป็นผู้จัดการดูแลร้านกาแฟที่พัทยา 3 สาขา!!

จนเมื่ออายุครบ 20 ปี ลาออกจากงานที่พัทยา เข้ามาทำงานที่ กทม.อีกครั้ง คราวนี้มาทำงานกับ “เถ้าแก่” ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นอย่างมาก เพราะ “เถ้าแก่” มีธุรกิจหลากหลาย ทั้งปั๊มน้ำมัน ขายอะไหล่รถย่านวรจักร อุปกรณ์จราจร และนำเข้าสินค้าจากจีน เช่น น้ำหอม เครื่องนับเงิน โดยเขารับหน้าที่เป็นเซลส์ขายทุกอย่าง ทำอยู่ 10 กว่าปี จนอายุ 33 ปี มีรายได้สูงสุดเดือนละ 30,000 บาท!!

ซึ่งตอนนั้นเขามีภรรยาและกำลังจะมีลูกด้วยกัน อยากให้ลูกมีชีวิตที่สมบูรณ์และมีอนาคตที่ดี ไม่ลำบากเหมือนตัวเอง จึงตัดสินใจคุยกับ “เถ้าแก่” เพื่อขออนุญาตออกไปเติบโตด้วยตัวเอง โดยเปิดบริษัทรับงาน “ตีเส้นจราจร” ซึ่งเป็นธุรกิจที่เขาเป็นผู้บุกเบิกงานนี้เอง หลังไปขายอุปกรณ์จราจร และเห็นโอกาสของธุรกิจในการรับตีเส้นจราจรให้ตามตึกสำนักงาน โรงพยาบาล คอนโด ห้างสรรพสินค้า โดยเขาจะไปตามไซต์งานที่กำลังก่อสร้าง เพื่อเสนอรับตีเส้นจราจรรอบอาคารและลานจอดรถ

เมื่อออกมาตั้งบริษัท NYN&G ENTERPRISES ของตัวเอง ครั้งแรกปี 59 ด้วยเงิน 6 หมื่นบาท เพียงแค่ปีเดียว ปี 60 เขาได้จับเงินล้านเป็นครั้งแรกในชีวิต!! จากนั้นอีก 2–3 ปี เขาก็มีเงิน 10 ล้านแรกในชีวิต!!

เพราะไม่เกี่ยงงาน ไม่ว่างานเล็กเงินน้อยถึงงานใหญ่ ขยายงานไปติดตั้งอุปกรณ์จราจร รับจ้างปูถนน ปูลานจอดรถ ลาดยางมะตอย โดยตั้งใจทำงานให้ลูกค้าประทับใจ งานเรียบร้อย เสร็จตรงเวลา ไม่เคยทิ้งงาน เขายึดหลัก “ซื่อสัตย์และรับผิดชอบ” จึงทำให้ลูกค้าแนะนำ บอกต่อๆกันให้มาใช้บริการ

เขายกตัวอย่างงานลูกค้า เช่น ติดตั้งอุปกรณ์และตีเส้นจราจร-ลานจอดรถในศูนย์ราชการ สนามบินดอนเมือง, สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา, ศาลแพ่งและศาลอาญารัชดา, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธนาคารกรุงไทย, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, คลังน้ำมันไทยออยล์, อุทยานราชภักดิ์, การไฟฟ้า-การประปานครหลวง, ห้างเดอะมอลล์, พารากอน, เซ็นทรัล, Terminal21 พัทยา, ปั๊มน้ำมัน PT, PTT, เอสโซ่, บางจาก, คลังสินค้า KEX, LAZADA, CPALL, MAKRO, TOP, 7-11 หมู่บ้านต่างๆ เช่น มันฑณา นันทวัน โครงการของอารียา พร็อพเพอร์ตี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือบางปะกง โรงงานของอิชิตัน, ฮิตาชิ, นิสสัน, ไทยยูเนี่ยน รวมถึงตีเส้นทางหลวง จ.นครราชสีมา ถนนหลวงบ่อเกลือ และทางหลวงชนบท ท่าวังผา จ.น่าน เป็นต้น

นอกจากนี้ เขายังอาสาตีเส้นจราจรลานจอดรถเพื่อเป็นสาธารณ ประโยชน์ให้โรงเรียน มูลนิธิ บ้านพักคนชรา และวัดอีกหลายแห่ง

อะไรเป็นแรงผลักดันให้เขามาถึงวันนี้ “คุณนุ” บอกว่า ผมเชื่อว่าความกตัญญู และการทำดี เชื่อว่า “คนดีผีคุ้ม-ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้” ตลอดเส้นทางเดินชีวิตผม ล้วนพบแต่คนใจดีมีเมตตา ทำให้ทุกวันนี้ผมยังคงติดต่อและหาโอกาสกลับไปกราบผู้มีพระคุณผมทุกคน ทั้งนายจ้าง “เถ้าแก่” รวมถึงคนที่ช่วยผมในวันที่เดินร้องไห้ออกมาจากบ้านช่างทอง และนับตั้งแต่ที่ผมออกมาจากบ้านแม่ ผมส่งเงินกลับไปให้แม่ทุกเดือน สร้างบ้านใหม่ให้แม่ พยายามกลับไปหาแม่และทำให้แม่สบายที่สุดจนวันสุดท้ายของชีวิต

ที่สำคัญ ความขยันขวนขวายดิ้นรนเพื่อให้ได้เรียนหนังสือ เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อมีโอกาสมีกิจการของตัวเอง ผมยึดหลักและบอกลูกน้องทุกคนว่าเราต้องซื่อสัตย์และรับผิดชอบงานลูกค้าให้ดีที่สุด เพราะลูกค้าถือเป็นผู้มีพระคุณ นี่คือ Business on my way ของผม!!

“นอกจากนี้ ผมยังตั้งใจที่จะให้โอกาสกับลูกน้อง เหมือนกับที่ผมเคยได้รับโอกาส ผมบอกกับพวกเขาว่า ทุกคนต้องมีความฝัน ต้องเติบโต ต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น”

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ "Business On My Way" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ