อย่างที่หลายคนพอเห็นและรับรู้แล้วว่า นอกจากการเป็นเวทีแข่งขันกีฬานานาชนิดแล้ว โอลิมปิก ยังมีบทบาทของการเป็นเวทีที่เป็นพื้นที่ให้เกิดการมีส่วนร่วมของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะภาคเอกชน และส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานออกแบบ ตลอดจนแบรนด์หลากหลายวงการ ดังนั้น จุดหมายปลายทางของการเข้าร่วมโอลิมปิกจึงไม่ใช่แค่ความภาคภูมิใจจากชัยชนะจากการแข่งขันกีฬา แต่ยังเป็นเวทีแห่งเกียรติยศระดับโลกในการโชว์อัตลักษณ์หรือแง่มุมที่มีความหมายของชาติตนเองมายุคต่อยุค
โดยเฉพาะอย่าง “Olympic Games Paris 2024” ซึ่งจัดขึ้นที่นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแฟชั่นอันดับหนึ่งของโลก โอลิมปิกปีนี้จึงมีเป้าหมายเชื่อมโยงกีฬาและศิลปะวัฒนธรรมในฐานะเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรม ทำให้ปีนี้นับเป็นโอลิมปิกเกมส์ที่จัดเต็มด้านงานออกแบบในทุกๆ มิติ อย่างที่เราเห็นตั้งแต่ช่วงเตรียมงาน กระทั่งพิธีเปิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ซึ่งนี่เองก็คือเบื้องหลังที่ทำให้การออกแบบชุดกีฬารวมถึงชุดเครื่องแบบพิธีการของนักกีฬาทีมชาติกลายเป็นสิ่งที่หลายประเทศจริงจัง เพราะนั่นคือด่านแรกที่โลกมองเข้ามาและจะมีมุมมองต่อประเทศของเราอย่างไร
แน่นอนว่าในฐานะผู้ชม นอกจากรอดูการแข่งขันแล้วก็ยังตั้งตารอชมพิธีเปิดสุดแกรม ขบวนพาเหรดสุดปัง และบรรดาแฟชั่นมากมายไปจนถึงชุดเครื่องแบบของนักกีฬาที่จะปรากฏอย่างใจจดใจจ่อ ราวกับนี่เป็นอีกหนึ่งแคตวอล์กระดับโลก
โดยหลังเผยโฉมชุดร่วมพิธีเปิดงานโอลิมปิก ณ กรุงปารีสของนักกีฬาทีมชาติมองโกเลีย Michel & Amazonka ‘มิเชล แอนด์ อมาซอนก้า’ แบรนด์แฟชั่นสัญชาติมองโกเลียก็ได้กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกภายในชั่วข้ามคืน โลกโซเชียลแห่ชื่นชนชุดที่นำความเป็นแฟชั่นและความสวยงามแบบดั้งเดิมมาผสมผสานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าคว้าเหรียญทองตั้งแต่ยังไม่แข่ง แม้แต่ VOGUE US ยังยกย่องว่านี่คือเป็น The Best Olympic Uniforms อีกด้วย
Thairath Money คอลัมน์ BrandStory ครั้งนี้เลยอยากชวนไปรู้จัก Michel & Amazonka แบรนด์ผู้จุดกระแส ‘แฟชั่นเชิดชูชาติ’ จุดเริ่มต้นของแบรนด์แฟชั่นที่ก้าวหน้าที่สุดในมองโกเลียกับการทำให้หลายประเทศฉุกคิดถึงคุณค่าของงานออกแบบและความภาคภูมิใจของชาติ พร้อมเปิดที่มาของชุดเครื่องแบบทีมชาติมองโกเลียซึ่งใช้เวลาเตรียมการเพียง 3 เดือนก่อนเผยโฉมให้ทั่วโลกได้ชื่นชม
แน่นอนว่าหากกล่าวถึงแฟชั่นใครๆ ก็มีได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีรสนิยมและสไตล์ โดย Forbes ยกให้ Michel & Amazonk เป็นทีมดีไซเนอร์ที่ฮอตและก้าวหน้าที่สุดในมองโกเลียในปี 2019 ความเก่งในการบาลานซ์ธุรกิจ และจุดเริ่มต้นแบรนด์ที่มีแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมท้องถิ่น สามารถเรียกความสนใจแฟชั่นนิสต้าในอูลานบาตอร์และวงการแฟชั่นอีกมุมของโลกให้สนใจได้
Michel & Amazonk ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ที่เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย โดย Michel Choigaalaa และ Amazonka Choigaalaa สองสาวพี่น้องครีเอทีฟไดเรกเตอร์และผู้ก่อตั้ง โดยมี Munkhjargal Choigaalaa พี่สาวอีกหนึ่งคนที่เข้ามารับหน้าที่เป็นซีอีโอของแบรนด์
Michel & Amazonka คือ Couture house ที่โดดเด่นในเรื่องคัตติ้งประณีตและดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ จากเทคนิคการตัดเย็บแบบร่วมสมัยและเทคนิคปักมือ Handmade แบบดั้งเดิม ความเชี่ยวชาญในการผสมผสานองค์ประกอบชิ้นงานออกแบบดั้งเดิมของมองโกเลียผ่านงานแฟชั่น ทำให้แบรนด์ขึ้นชื่อในเรื่องการนำเสนอประเพณีวัฒนธรรมมุมมองที่สดใหม่และทันสมัย การผสมผสานแฟชั่นตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งกลายเป็น Identity หลักของแบรนด์
Michel & Amazonka เริ่มต้นดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2015 โดยแบรนด์ผลิตแฟชั่นชายหญิงทั้งรูปแบบ Ready-to-wear และ Traditional Deel ชุดท้องถิ่นของชาวมองโกเลียที่จะถูกดีไซน์ใหม่ในแบบฉบับเรียบหรูและร่วมสมัยสำหรับผู้ที่สนใจ
รวมถึงกลุ่มเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าแนวสตรีท สปอร์ตแวร์ เครื่องประดับ รองเท้า และ Cashmere & Wool คอลเลกชันผ้าแคชเมียร์ ซึ่งเป็นผ้าพื้นเมืองของมองโกเลีย ซึ่งมาจากแหล่งผลิตผ่านการแปรรูปและผลิตขึ้นในประเทศ 100% นอกจากนี้แบรนด์ยังเป็นผู้ออกแบบยูนิฟอร์มของพนักงานต้อนรับสำหรับสายการบิน Mongolian Airlines อีกด้วย
เมื่อคุณดูการออกแบบของเรา คุณจะเห็นเสื้อผ้าสไตล์ยุโรปที่ประดับตกแต่งด้วยงานปักลวดลายที่สื่อถึงชาติพันธุ์ เราค้นคว้าอย่างหนักและได้แรงบันดาลใจจากสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว ประเพณีและวัฒนธรรม
คุณสามารถค้นหาไอเดียได้มากมายในมองโกเลีย ดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยมีใครรู้จัก ผู้คนมักจะรู้จักมองโกเลียจากหน้าประวัติศาสตร์ หรือนักรบในตำนาน 'เจงกิสข่าน'
ปัจจุบันคุณสามารถพบแรงบันดาลใจได้มากมาย ทั้งจากเสื้อผ้าของผู้คน ขนบธรรมเนียม พิธีกรรม และสิ่งต่างๆ ในประเทศ
Michel & Amazonka Choigaalaa กล่าวกับ Forbes ถึงแรงขับเคลื่อนในการปั้นแบรนด์ที่มาจากอิทธิพลจากครอบครัวที่ชื่นชอบงานหัตถกรรม และความหลงใหลในเรื่องชาติพันธุ์ หรือที่ทั้งสองเรียกว่า Underground Ethnic scenes เพื่อแสดงออกเรื่องความงดงามของชาติบ้านเกิดและความหลากหลายทางชาติพันธุ์ผ่านงานออกแบบ ไปพร้อมกับเป้าหมายในการผลักดันให้วงการแฟชั่นก้าวเทียบชั้นแบรนด์แฟชั่นระดับโลก
“ตั้งแต่การปฏิวัติประชาธิปไตยในปี 1989 ประเทศของเราพึ่งเป็นอิสระจากสภาพโซเวียตได้ 30 กว่าปี เราคิดว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นของเราตามหลังคนอื่นมาก ที่ผ่านมาดีไซเนอร์ในมองโกเลียทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ระดับโลกจำนวนมาก แต่ความเป็นจริงไม่ใช่ทุกแบรนด์จะได้รับโอกาสและความเท่าเทียมในการแสดงผลงานในตลาดโลก"
"ความฝันสูงสุดของเรา คือ การทำให้งานออกแบบของมองโกเลียอันเป็นเอกลักษณ์ได้รับการยอมรับในประเทศต่างๆ ทำให้วงการแฟชั่นมองโกเลียเข้าไปอยู่ในระดับเดียวกับแฟชั่นระดับโลก”
โดยหลังจากที่แบรนด์เผยโฉมชุดพิธีการของนักกีฬาทีมชาติ เรียกได้ว่า โลกอยากรู้จักมองโกเลียมากขึ้นเพราะชุดที่ทั้งคู่ออกแบบ การนำเสนอเอกลักษณ์ของชาติผ่านแฟชั่นได้อย่างงดงามและแยบคายได้จุดกระแสให้โซเชียลมีเดียถกเถียงกันถึง ‘พลังของแฟชั่น’ และความภาคภูมิใจในการนำเสนอเอกลักษณ์ดั้งเดิมของประเทศ แน่นอนว่า ยากที่จะจะห้ามไม่ให้ผู้คนเปรียบเทียบกับชุดของประเทศตนเอง
ย้อนไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แบรนด์ได้รับการติดต่อจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติมองโกเลียว่าบริษัทที่พวกเขาเลือกก่อนหน้านี้ได้ถอนตัว ทำให้ Michel & Amazonka ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดหาชุดอย่างเป็นทางการแทนในปีนี้ โดยแบรนด์เองก็เคยฝากผลชนะเลิศในการออกแบบชุดสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนที่โตเกียวในปี 2020 และการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2022 ก่อนหน้านี้
“อย่างที่เห็นว่าชุดมีรายละเอียดมาก เราใช้เวลาตัดเย็บให้สมบูรณ์ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อชุดหนึ่งชุด เราทำชุดทั้งหมด 120 ชุด สำหรับผู้ชาย 70 ชุด และสำหรับผู้หญิง 50 ชุด ซึ่งรวมถึงชุดโอลิมปิกและพาราลิมปิกด้วย กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การจัดหาผ้า รวบรวมอุปกรณ์เสริม เตรียมงานปักและตัดเย็บต้องจัดการทั้งหมดภายใน 3 เดือน”
Batbaatar Munkhbaya ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ Michel & Amazonka เปิดเผยกับ GQ ว่า พวกเขามีเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้นในการออกแบบชุดที่โด่งดังไปทั่วโลก
ชุดคลุมสีขาวปักลายทับด้วยเสื้อกั๊กที่ทุกคนเห็นได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘Mongolian Deel’ ชุดประจำชาติมองโกเลียเแบบดั้งเดิมของชาวมองโกลที่สวมใส่กันมานานหลายศตวรรษ โดยชุดแบบดั้งเดิมนี้จะมีลักษณะคล้ายกับชุดคลุมยาวคลุมเข่าหรือเสื้อคลุมแบบยุโรปและสวมเสื้อกั๊กทับอีกหนึ่งชั้น นิยมสวมใส่ในการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะผู้สูงอายุคนเก่าคนแก่ยังคงนิยมสวมใส่ในงานเฉลิมฉลอง
และนอกจากนี้ยังได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘Mongolian Naadam Festival’ มหกรรมแข่งขันกีฬาคล้ายๆ การแข่งขันโอลิมปิก แต่จัดขึ้นในมองโกเลียช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี ผู้คนจะพากันแต่งตัวกันออกมาร่วมเพื่อพิธีเปิด โดยสวมชุดคล้ายๆ กับที่แบรนด์ออกแบบแต่มีสีสันฉูดฉาดมากกว่า โดยชุดดั้งเดิมที่แบรนด์ทำขึ้นสำหรับโอลิมปิกปีนี้เน้นสีโทนอ่อน ดูเรียบง่ายกว่า และเน้นงานปักที่หรูหราขึ้น
“สีที่เข้มกว่าจะไม่เหมาะกับฤดูร้อนที่ร้อนอบอ้าวของปารีส” แรงบันดาลใจของชุดยังมาจากกลิ่นอายมหานครสุดโรแมนติกปารีส ดังนั้นสีขาว เทา น้ำตาล คือ โทนสีที่เป็นคำตอบที่เหมาะสม บวกกับ ไอเดียของคบเพลิงในปีนี้ที่มีความเรียบหรู โดยมีพื้นผิวคลื่นที่สะท้อนแสงอันได้แรงบันดาลใจจากแม่น้ำแซน ซึ่งเป็นสีกลางๆ ที่มีสีทองและสีเงิน เพิ่มความโดดเด่นให้ความรู้สึกสง่างาม สอดทับกับสีประจำชาติของ Soyombo สัญชาติของธงมองโกเลีย ได้แก่ สีน้ำเงิน สีแดง และสีขาว
รายละเอียดของสัญลักษณ์ โมโนแกรม และลวดลายปักด้วยดิ้นทองแบบดั้งเดิมที่ปรากฏบนชุดล้วนมีความหมายหลากหลายเชื่อมโยงการแข่งขันโอลิมปิก ความงดงามของประเพณีดั้งเดิมและแฟชั่นร่วมสมัยเข้าด้วยกัน เช่น หอไอเฟล เปลวไฟ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ วงแหวนโอลิมปิก
ภูเขา ก้อนเมฆ ท้องฟ้า สื่อถึงทิวทัศน์อันกว้างใหญ่และความงามตามธรรมชาติของมองโกเลีย โดยภูเขายังเป็นตัวแทนการทำงานหนักและความอดทนของนักกีฬา ลายปักธงสีขาวเก้าผืนบนเสื้อกั๊ก คือ ธงที่สีขาวโบกปลิวในเทศกาล Naadam เมื่อธงขาวทั้งเก้าผืนเข้าสู่สนามกีฬาสื่อถึงสันติภาพและความสามัคคีซึ่งเหมาะจะเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้น
สำหรับการแข่งขันโอลิมปิก ณ กรุงปารีส เราจะเห็น Michel & Amazonka สร้างสรรค์ลุคที่แตกต่างกัน 4 แบบ ประกอบด้วย ชุดผู้ชาย 2 แบบ และสำหรับผู้หญิง 2 แบบ ผู้ถือธงจะมีชุดพิเศษเฉพาะตัว โดยผู้ชายจะสวมหมวกทรงแหลมแบบดั้งเดิม (Buryat) และรองเท้าบูต (Gutals) ซึ่งเป็นหมวกและรองเท้าของชุดประจำชาติดั้งเดิม
ไม่ใช่แค่ความสวยงามแล้วจบไป แต่โลกยังรับรู้ถึงแนวคิดในการออกแบบที่สะท้อนความเป็นสากล ซึ่งรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิมที่เชิดชูความแข็งแกร่งของชนชาติมองโกเลียได้อย่างไม่อาจปฏิเสธสายตาได้
หากกล่าวว่า Michel & Amazonka คือ ทูตวัฒนธรรม ก็ไม่เกินจริง สำหรับมหกรรมกีฬาที่หลายคนตั้งตารอคอยเพราะจัดขึ้นเพียงสี่ปีครั้งเท่านั้น แบรนด์ก้าวข้ามขอบเขตของแฟชั่นที่ไม่ได้นำเสนอเพียงความงดงามแต่ยังมาไกลถึงบทบาทของการพรีเซนต์ประเพณีของมองโกเลียสู่สายตาของคนทั่วโลก
อ้างอิง GQ , Forbes , CNN , Dazeddigital
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney