“บินไทย” ขายหุ้นเพิ่มทุนปลายปีนี้ “ปิยสวัสดิ์” มั่นใจล้างหนี้ 1.2 แสนล้านจบใน 12 ปี

Business & Marketing

Corporates

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“บินไทย” ขายหุ้นเพิ่มทุนปลายปีนี้ “ปิยสวัสดิ์” มั่นใจล้างหนี้ 1.2 แสนล้านจบใน 12 ปี

Date Time: 27 ก.พ. 2567 05:07 น.

Summary

  • การบินไทยจะแปลงหนี้เป็นทุน และขายหุ้นเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จในปลายปี 67 จากนั้นจะออกจากแผนฟื้นฟูและกลับเข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 68 ตามแผน

Latest

Jane Sun ซีอีโอ Trip.com พาธุรกิจท่องเที่ยวฝ่าวิกฤต ขายทริปหรูหลักล้าน หมดใน 17 วิ

การบินไทยเดินหน้าตามแผนฟื้นฟู มั่นใจปลายปีนี้ แปลงหนี้เป็นทุนและขายหุ้นเพิ่มทุนสำเร็จ ส่วนหนี้กว่า 1.2 แสนล้านบาท เคลียร์จบใน 12 ปี เดินหน้าจัดหาเครื่องบิน 80 ลำตามแผน ตั้งเป้าหมายมีเครื่องบิน 154 ลำในปี 76 เสริมแกร่งธุรกิจ และสนับสนุนนโยบายรัฐบาลเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการว่า การบินไทยจะแปลงหนี้เป็นทุน และขายหุ้นเพิ่มทุนให้แล้วเสร็จในปลายปี 67 จากนั้นจะออกจากแผนฟื้นฟูและกลับเข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 68 ตามแผน สำหรับการแปลงหนี้ทุน กำหนดราคาขายหุ้น หุ้นละ 2.54 บาท หรือเป็นเงินราว 55,000 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย ก่อนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมช่วงครึ่งหลังปี 67 หากขายไม่หมดจะนำมาขายให้พนักงาน และผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) ในราคาสูงกว่าหุ้นละ 2.54 บาท เพื่อระดมทุนก้อนใหม่ 25,000 ล้านบาท

ส่วนแผนชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูรวม 120,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้จากการออกหุ้นกู้ 72,000 ล้านบาท, หนี้สถาบันการเงิน 30,000 ล้านบาท และหนี้อื่นๆ 10,000-20,000 ล้านบาทนั้น จะเริ่มชำระปีละ 10,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปเป็นเวลา 12 ปี ส่วนหนี้ค่าบัตรโดยสาร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้โดยสารที่มายื่นขอให้ชำระหนี้ และกลุ่มที่ไม่ได้ยื่นขอ รวม 13,000 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันชำระหนี้จนเหลือมูลหนี้ 400 ล้านบาท และจะชำระให้เสร็จในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ส่วนผู้โดยสารที่ติดต่อไม่ได้ จะนำเงินไปวางไว้ที่กรมบังคับคดี เพื่อแสดงความจำนงชำระหนี้ต่อไป

สำหรับการจัดหาเครื่องบินที่เพิ่งลงนามสัญญาการจัดหากับบริษัท โบอิ้ง และบริษัท จีอี แอโรสเปซ เพื่อจัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 787 Dreamliner 45 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ GEnx รวมทั้งสิทธิในการจัดหาเครื่องบินเพิ่มเติมสูงสุด รวมเป็น 80 ลำนั้น ยืนยันว่าไม่กระทบสถานะทางการเงินแน่นอน โดยรูปแบบการจัดหา เป็นไปได้ทั้งการเช่า เช่าซื้อ และซื้อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดจะมีความชัดเจนในปี 68

“การจัดหาเครื่องบินครั้งนี้ ไม่กระทบสถานะการเงินของเราและไม่กระทบการจ่ายหนี้ตามแผนฟื้นฟู ถ้าดูจากสถานะการเงินขณะนี้ 45 ลำซื้อด้วยเงินสดได้เลย เพราะไม่ได้ชำระครั้งเดียว แต่ทยอยชำระ และเมื่อรับเครื่องบินมาแล้ว สามารถใช้งานสร้างรายได้ได้ทันที หากจัดหา 80 ลำตามแผน จะทำให้ปี 76 มีฝูงบิน 154 ลำ สนับสนุนนโยบายเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคของรัฐบาล”

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นำเงินภาษีประชาชนมาอุดหนุนการบินไทย โดยรัฐบาลมิได้ให้เงินอุดหนุนมา 13 ปีแล้ว ขณะที่ช่วงโควิด รัฐบาลก็ไม่ได้ให้เงินช่วยเหลือ หรืออุดหนุนเหมือนสายการบินอื่น ส่วนการถือหุ้นใหญ่ของกระทรวงการคลังนั้น กระทรวงก็ได้รับการปันผลแล้วไม่น้อย สำหรับปี 67 ประเมินว่า การบินไทยจะขนส่งผู้โดยสาร 15 ล้านคน มีเคบิน แฟกเตอร์เฉลี่ย 80% และมีรายได้ใกล้เคียงปี 62 ก่อนโควิดที่มีรายได้รวม 184,046 ล้านบาท เพราะจะรับมอบเครื่องบินเช่าเพิ่ม 9 ลำ รวมฝูงบิน 79 ลำ แต่ยังมีความเสี่ยงเรื่องค่าโดยสารเฉลี่ยที่จะลดลงจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ราคาน้ำมันยังสูงถึง 110-120 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนสูง.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ